คดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น นายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา หรือ เสี่ยบิ๊ก ประธานสโมสรฟุตบอล เพื่อนตำรวจ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผบ.สำนักคดีการเงินการธนาคาร และน.ส.วิลาสินี ปานใจ พนักงานอัยการเพื่อเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน กรณีมีชื่อรับเช็คจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด จำนวน 2 ฉบับ เป็นเงิน 20 ล้านบาท ในช่วงปี 2552-2555 นายสัมฤทธิ์ พร้อมชี้แจงทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหา แต่ในวันนี้มาเพื่อให้ปากคำกรณีมีชื่อรับเช็คจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน แต่ไม่ใช่จำนวน 20 ล้านบาท ส่วนตัวยอมรับว่า รู้จักกับนายศุภชัยแต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะเป็นข้อมูลที่จะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
สำหรับกรณีกู้เงินจากสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ยืนยันว่า ถูกนกลั่นแกล้งจากกลุ่มที่เสียผลประโยชน์ ทั้งบอร์ดชุดเก่าและที่ปรึกษาที่เป็นบุคคคลที่มีหน้าตาทางสังคม หากเอาหลักฐานมาเปิดเผยจะกระทบกระเทือนกับสถาบันหลายแห่ง มีพยานหลักฐานทั้งคลิปและเอกสารมาชี้แจงได้ ที่ผ่านมาเข้าให้ปากคำกับกองบังคับการปราบปรามตลอด ไม่คิดหนีไปต่างประเทศ ยังใช้ชีวิตตามปกติ อย่างไรก็ตามหากเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดอาจถูกปองร้ายถึงชีวิต ส่วนตัวไม่จำเป็นต้องเดินออกมาสร้างภาพให้ถูกมองว่าเป็น 18 มงกุฏ และจะไม่หนีไปไหนเพราะบ้านอยู่ที่นี่ ส่วนกรณีถูกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) อายัดเงินนั้น นายสัมฤทธิ์ กล่าวว่า เป็นการอายัดเพื่อตรวจสอบเท่านั้น การเปิดตู้เซฟก่อนหน้านี้เพื่อความยุติธรรมควรให้เจ้าของที่เกี่ยวข้อง หรือ บอร์ดชุดเก่าเข้าร่วมด้วยไม่ใช่มีคนมาเปิดแค่ 4-5 คน แล้วบอกว่าเป็นของปลอม
สำหรับเงินจำนวน 2,100 ล้านบาท ยอมรับว่า ได้รับโอนมาจริงแต่ยังไม่ขอพูดถึงรายละเอียด ขอให้ปากคำพนักงานสอบสวนก่อน เมื่อพร้อมจะแถลงรายละเอียดอีกครั้ง
แฟ้มภาพ