อัลจาซีเราะห์ ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในกาตาร์ รายงานว่า สหรัฐฯ เพิ่มการเตรียมพร้อมกำลังทหารในตะวันออกกลางตลอดทั้งปีที่ผ่านมา โดยมีกำลังทหารราว 40,000 นาย เรือรบอย่างน้อย 12 ลำ และฝูงบินขับไล่ของกองทัพอากาศ 4 ฝูงบินที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค นับตั้งแต่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาเริ่มต้นขึ้นในปีที่แล้ว (2566) จนถึงในปัจจุบันที่แนวรบลุกลามไปถึงเลบานอน ในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในสัปดาห์นี้ ซึ่งทำให้มีความกังวลว่าความขัดแย้งอาจกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ เมื่อฮิซบอลเลาะห์ ระบุกล่าวว่าอิสราเอลก้าวข้าม "เส้นแดง" ด้วยการโจมตีผ่านอุปกรณ์สื่อสาร
นายโยอัฟ กัลลันต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล มีการพูดคุยกับนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ หลายครั้งในสัปดาห์นี้ ประกาศเริ่มต้น “บทใหม่” ของสงครามไปที่แนวรบทางตอนเหนือ
นางซาบรีนา ซิงห์ โฆษกกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯมีความมั่นใจในกำลังพลและความพร้อมในปัจจุบัน ทั้งในการปกป้องกองกำลังของสหรัฐฯ และหากจำเป็นก็จะต้องปกป้องอิสราเอลด้วย โดยภารกิจของกองทัพสหรัฐฯในขณะนี้ได้แก่ การลาดตระเวนในพื้นที่ขัดแย้งต่างๆ โดยเฉพาะการปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย การปกป้องอิสราเอล และการต่อต้านภัยคุกคามจากกลุ่มกบฏฮูตีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในเยเมน ซึ่งโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดงและยิงขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีอิสราเอล
เดิมสหรัฐฯ มีกำลังพลประมาณ 34,000 นายประจำการอยู่ในกองบัญชาการกลาง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ตะวันออกกลางทั้งหมด แต่ขณะนี้มีกำลังพลเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 40,000 นาย เนื่องจากมีการส่งเรือและเครื่องบินเข้ามาเพิ่มเติม ตามที่นายออสติน รัฐมนตรีกลาโหม ให้เรือบรรทุกเครื่องบิน 2 ลำและกองเรือติดตามเข้าประจำการในภูมิภาค และให้ย้ายกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีกองหนึ่งไปภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้มีเรือรบของสหรัฐฯ กระจายอยู่ทั่วทั้งภูมิภาคตั้งแต่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออกไปจนถึงอ่าวโอมาน พร้อมด้วยเครื่องบินขับไล่ของทั้งกองทัพอากาศและกองทัพเรือประจำการตามจุดยุทธศาสตร์
เมื่อเดือนที่แล้ว (ส.ค.) กองทัพอากาศได้ส่งฝูงบินขับไล่ขั้นสูง F-22 เข้ามาในภูมิภาค ส่งผลให้มีฝูงบินขับไล่ภาคพื้นดินในตะวันออกกลางมีทั้งหมด 4 ฝูงบิน ซึ่งเป็นฝูงบินที่ตรวจจับได้ยาก
...
#กองทัพสหรัฐฯ
#ตะวันออกกลาง
#อิสราเอล