การขานรับ ปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหลายครั้ง
การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี (19 ก.ย.67)
-ดาวโจนส์ ทะยานขึ้นเหนือระดับ 42,000 จุด ปิดที่ 42,025.19 จุด เพิ่มขึ้น 522.09 จุด หรือ +1.26%
-ดัชนี S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน ปิดที่ 5,713.64 จุด เพิ่มขึ้น 95.38 จุด หรือ +1.70%
-ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,013.98 จุด เพิ่มขึ้น 440.68 จุด หรือ +2.51%
ตลาดหุ้นยุโรป ปิดพุ่งขึ้นเช่นกัน ชี้ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกนั้นจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง ซึ่งเพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป
ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดบวก หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ตรึงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และขยายเวลาสำหรับแผนการปรับลดการถือครองพันธบัตรออกไปอีก 1 ปี ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,328.72 จุด เพิ่มขึ้น 75.04 จุด หรือ +0.91% แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์
ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกในวันพฤหัสบดี นักลงทุนมีความหวังว่าการที่เฟด ลดดอกเบี้ยจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยหนุนจากการปรับตัวลงของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
-สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.67 เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.47% ปิดที่ 71.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
-สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.67 เพิ่มขึ้น 1.23 ดอลลาร์ หรือ 1.67% ปิดที่ 74.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกขานรับ เฟด ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย
-สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.67 เพิ่มขึ้น 16 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 2,614.60 ดอลลาร์/ออนซ์
#หุ้นสหรัฐฯ
#น้ำมันโลก
#ทองคำ
แฟ้มภาพ