สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ(UNGA)ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯโหวตด้วยเสียงส่วนใหญ่ 124 เสียง รับรองข้อเสนอที่ร่างโดยปาเลสไตน์ เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการครอบครองดินแดนปาเลสไตน์ภายใน 12 เดือนข้างหน้า ขณะเดียวกัน 14 ประเทศคัดค้าน และอีก 43 ประเทศงดออกเสียง ขณะที่ปาเลสไตน์ในฐานะผู้สังเกตการณ์ ไม่มีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนน
มติดังกล่าว สะท้อนจากความคิดเห็นคณะที่ปรึกษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) ศาลสูงสุดในสังกัดของ UN เมื่อเดือนมิ.ย.มาประกอบการพิจารณา ซึ่งมีสาระสำคัญระบุว่า การที่อิสราเอลเข้ายึดครองเขตเวสต์แบงก์ เขตเยรูซาเล็มตะวันออกและเขตฉนวนกาซาเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมขอให้อิสราเอลยุติการกระทำที่ผิดกฎหมายในเรื่องนี้โดยเร็ว
ด้านเอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำ UN กล่าวว่า การโหวตครั้งนี้นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของชาวปาเลสไตน์ในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพและความยุติธรรม แต่อิสราเอลประณามการลงมติของ UNGA ครั้งนี้ว่าเป็นการก่อการร้ายโดยใช้การทูตเป็นเครื่องมือ แม้ว่ามติของ UNGA จะไม่ผูกมัดให้อิสราเอลต้องปฏิบัติตามมติ แต่มีความหมายในเชิงสัญลักษณ์และมีน้ำหนักทางการเมือง เนื่องจากสะท้อนจุดยืนของรัฐสมาชิกยูเอ็นทั้งหมด 193 ประเทศ
การลงมติครั้งนี้มีขึ้นขณะที่สงครามในเขตฉนวนกาซาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสใกล้จะครบหนึ่งปีในวันที่ 7 ต.ค.นี้ หลังกลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ต.ค.2566 ฆ่าพลเรือนชาวอิสราเอล 1,200 รายและจับตัวประกัน 251 คนไปยังเขตฉนวนกาซา ด้านกระทรวงสาธารณสุขของปาเลสไตน์ระบุว่า ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตกว่า 41,110 รายในเขตฉนวนกาซา
#มติUNGA
#อิสราเอล
#ยุติรุกรานปาเลสไตน์