+++คณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้ เริ่มตรวจหาสาเหตุและพยายามหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเมอร์ส ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในเกาหลีใต้อย่างเร่งด่วน ขณะที่นางปักกึนเฮ ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ วอนประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพื่อไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ จนถึงขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสเมอร์สในเกาหลีใต้แล้วทั้งสิ้น 95 คน เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ มีผู้ต้องสงสัยที่ต้องเฝ้าระวังอีกร่วม 2,892 คน โรงเรียน รวมทั้ง มหาวิทยาลัยหยุดเรียนแล้วกว่า 2,000 แห่ง
+++เกาหลีใต้ประกาศว่าจะสกัดการระบาดของไวรัสเมอร์ส ให้ได้ภายในสัปดาห์นี้
+++ฮ่องกงเป็นพื้นที่ที่ประกาศเตือนภัยในระดับสีแดงคือห้ามประชาชนเดินทางไปยังประเทศเกาหลีใต้โดยเด็ดขาดหากไม่จำเป็นจริงๆ สำหรับประชาชนที่อยู่ในเกาหลีใต้ ขอให้หลีกเลี่ยงโรงพยาบาล และศูนย์บริการทางการแพทย์ โดยเฉพาะโรงพยาบาลที่ทางการเกาหลีใต้ประกาศว่ามีผู้ติดเชื้อรักษาตัวอยู่ เช่น รพ.พยองแต๊ก และศูนย์การแพทย์ซัมซุง เนื่องจากผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเวลานี้ ล้วนติดเชื้อในโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ทั้งสิ้น พร้อมกันนั้นก็เตือนให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆเพื่อรักษาสุขอนามัย
+++การหารือระหว่างกรีซกับประเทศเจ้าหนี้ นายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังของเยอรมนี กล่าวในที่ประชุมเศรษฐกิจในกรุงเบอร์ลินของเยอรมนีว่า เยอรมนีและกรีซ มีจุดยืนที่แตกต่างกันมากในการหารือแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกันที่จะมีขึ้นระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้นานาชาติ เพื่อช่วยทำให้กรีซไม่ผิดนัดชำระหนี้
+++นายอเล็กซานเตอร์ สตับบ์ รัฐมนตรีคลังของฟินแลนด์ พูดในที่ประชุมเดียวกันว่า สหภาพยุโรป(อียู)จะทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้กรีซอยู่ร่วมกับยูโรโซนต่อไป แต่บัดนี้อียูเริ่มหมดความอดทนกับกรีซทุกขณะ ก่อนหน้านี้ กรีซได้ยื่นข้อเสนอใหม่ให้เจ้าหนี้พิจารณาอนุมัติเงินช่วยเหลือเพิ่มเติม ป้องกันไม่ให้กรีซประสบภาวะล้มละลาย
+++คณะกรรมาธิการแห่งยุโรป(อีซี)ได้รับข้อเสนอปฏิรูปฉบับใหม่จากรัฐบาลกรีซแล้ว ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีการอนุมัติเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับกรีซ หลังประสบปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินมาหลายเดือน ขณะนี้อีซีอยู่ระหว่างการประเมินข้อเสนอดังกล่าว เดิมทีกรีซจะต้องส่งข้อเสนอใหม่ให้กับอีซีพิจารณาตั้งแต่วันพฤหัสบดีก่อน ที่ผ่านมามีประเด็นที่กรีซและเจ้าหนี้นานาชาติยังเห็นไม่ตรงกัน เช่นเรื่องการปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญและภาษีมูลค่าเพิ่ม
+++นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราสของกรีซ แสดงความหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ในเร็ววันนี้ แต่เตือนอียูเรื่องผลกระทบรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ถ้าหากไม่สามารถตกลงกันได้ขณะเดียวกัน นายซีปราสจะหารือกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนีและประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศสที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียมในวันนี้ นอกรอบการประชุมสุดยอดระหว่างอียูกับแอฟริกา
+++แถลงการณ์ของผู้นำ จี7 ประกอบด้วยสหรัฐฯ, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, อิตาลี, ญี่ปุ่น, และแคนาดา ให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพภูมิอากาศให้คำมั่นในการพัฒนายุทธศาสตร์ลดการแพร่กระจายก๊าซคาร์บอนในระยะยาว ในส่วนสถานการณ์ตึงเครียดจากความขัดแย้งด้านอธิปไตยในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก แถลงการณ์ร่วมของจี7 ได้เรียกร้องให้ทุกประเทศที่เกี่ยวข้องเคารพกฎหมายสากล นอกจากนี้ ที่ประชุมยังคัดค้านการใช้การข่มขู่หรือคุกคามด้วยกำลัง
+++มาเลเซีย ประท้วงเรือยามฝั่งของจีน ที่รุกล้ำเข้ามาในน่านน้ำทางเหนือของเกาะบอร์เนียว นายชาฮิดัน กัสซิม รมว.ความมั่นคงแห่งชาติมาเลเซีย กล่าวว่านายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก แห่งมาเลเซีย จะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดคุยโดยตรงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ก่อนหน้านี้ เรือรบจีนได้เข้าไปซ้อมรบรอบ ๆ แนวปะการังเจมส์ ซึ่งอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของมาเลเซีย ส่งผลให้รัฐบาลมาเลเซียต้องปรับเปลี่ยนขอบเขตเพื่อความเหมาะสมเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานนี้ จีนได้สร้างความไม่พอใจและความตกตะลึงให้แก่ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงสหรัฐและญี่ปุ่น เนื่องจากสร้างเกาะเทียมในบริเวณน่านน้ำทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาท เนื่องจากเชื่อกันว่า อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างรันเวย์สำหรับใช้ในกิจการทหาร
+++สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานอ้างแหล่งข่าวตำรวจของอิรักและนายฟาลิห์ อัลอิสซาวี รองประธานสภาอำเภอแห่งหนึ่งของเมืองอามิริยัต อัล-ฟัลลุจา ทางภาคตะวันตกของอิรักว่า นักรบกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) 3 คนที่ปลอมตัวโดยใส่เครื่องแบบทหารได้ก่อเหตุสังหารคนเสียชีวิต 8 ศพและมีคนบาดเจ็บอีก 17 คนในที่ทำการรัฐบาลท้องถิ่นแห่งหนึ่ง หนึ่งในกลุ่มคนร้ายระเบิดฆ่าตัวตายในอาคาร อีก 2 คนหลบหนีไปได้ ผู้บาดเจ็บรวมถึงนายชาคีร์ อัลอิสซาวีประธานสภาฯ ซึ่งกระโดดลงทางหน้าต่างที่ทำการช่วงเกิดเหตุ
+++สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์)แถลงยอดตัวเลขผู้อพยพและลี้ภัยที่เดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียเพื่อมาขึ้นฝั่งที่ยุโรปว่า นับตั้งแต่ต้นปีนี้มีผู้อพยพและลี้ภัยลงเรือข้ามทะเลมาขึ้นฝั่งที่ยุโรปแล้วถึง1 แสน 3,000คน โดยมาขึ้นฝั่งที่อิตาลี54,000คน กรีซ48,000คน สเปน920คน และมอลตาอีก91คน ขณะที่ ในปีนี้มีผู้อพยพจมน้ำเสียชีวิตเกือบ1,800 ศพ ทำให้ยูเอ็นเอชซีอาร์เตรียมจัดส่งความช่วยเหลือเพิ่มเข้าไปในกรีซและทางตอนใต้ของอิตาลี ซึ่งจำนวนผู้อพยพและลี้ภัยได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่เป็นผู้หนีภัยสู้รบในซีเรีย อัฟกานิสถานและอิรัก จากตัวเลขล่าสุดพบว่ามีผู้อพยพเกือบ6,000คน ที่ได้รับความช่วยเหลือหลังใช้เรือประมงและเรือยางขนาดเล็กเดินทางข้ามทะเลมาจากชายฝั่งของลิเบีย ก่อนถูกส่งตัวมาที่อิตาลี ผู้อพยพส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ทางตอนใต้ของเขตทะเลทรายซาฮาราทวีปแอฟริกา โดยพบว่ามีเด็กและผู้หญิงตั้งครรภ์รวมอยู่ด้วย
+++กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซึ่งมีฐานที่ตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ รายงานว่า มีรายงานการเสียชีวิตของผู้คนจำนวน2 แสน 30,618ศพแล้วจากผลของสงครามความขัดแย้งในประเทศซีเรีย ที่เปิดฉากขึ้นมาตั้งแต่ปี2554ในจำนวนนี้เป็นพลเรือน69,494ศพ ซึ่งเป็นเด็ก11,493ศพและผู้หญิง7,371ศพแต่เป็นทหารและกองกำลังมากที่สุดคือ ทหารฝ่ายรัฐบาลซีเรีย เดือนพ.ค.เป็นเดือนที่เกิดความสูญเสียมากที่สุดในรอบปี2558 เนื่องจากเกิดปะทะกันอย่างดุเดือดในหลายเมือง
+++เอเอฟพี รายงานความคืบหน้าการไล่ล่านักโทษ 2 คน ได้แก่ นายริชาร์ด แม็ตต์ อายุ 49 ปี และนายเดวิด สเวต อายุ 35 ปี ที่หลบหนีจากทัณฑสถานคลินตัน เมืองแดนนีโมรา รัฐนิวยอร์ก สหรัฐฯ ล่วงเข้าสู่วันที่ 4 ตำรวจระดมกำลังทั้งสุนัขดมกลิ่นและเฮลิคอปเตอร์ พร้อมประกาศรางวัลนำจับถึง 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3 ล้านบาท ส่วนฝ่ายสืบสวนมุ่งประเด็นไปที่ข้อสงสัยว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ให้ความช่วย รายงานระบุว่า นายแม็ตต์และนายสวีตใช้เครื่องมือไฟฟ้าตัดทำลายกำแพงในเรือนจำแล้วมุดลงไปในท่อระบายน้ำเพื่อคลานไปโผล่ยังระบบอุโมงค์ระบายน้ำเสียของเมือง พร้อมทิ้งข้อความไว้เยาะเย้ย เจ้าหน้าที่เรือนจำด้วย
+++เหตุจลาจลเมืองพอร์ต ซาอิด ของอียิปต์ เมื่อเดือนก.พ.2555ถือเป็นเหตุจลาจลที่เกี่ยวโยงกับกีฬาจนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดเกิดขึ้นเมื่อแฟนบอลทีมเจ้าบ้านอัล-มาสรีกับทีมอัล-อาห์ลีจากกรุงไคโร เกิดปะทะกันในสนามฟุตบอลหลังเกมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอียิปต์จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 74ศพ ศาลอาญากรุงไคโร ได้พิพากษายืนให้ลงโทษประหารชีวิตแฟนบอลทีมอัล-มาสรีจำนวน11คน แต่มีอยู่1คนที่ยังหลบหนีอยู่ นอกจากนั้นก็ยังตัดสินลงโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ2คนซึ่งมีหัวหน้าตำรวจเมืองพอร์ตซาอิด รวมอยู่ด้วย และเจ้าหน้าที่อีก2คนของสโมสรฟุตบอลทีมอัล-มาสรีลงโทษจำคุกคนละ 5 ปี ส่วนที่เหลือของจำเลย72คนในคดีนี้ถูกลงโทษจำคุกคนละ 1ถึง15ปี แต่ศาลก็ตัดสินให้พ้นผิดไป21คนมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง7คนและเจ้าหน้าที่ของสโมสรอัล-มาสรีด้วย1คน แต่จำเลยยังสามารถยื่นอุทธรณ์คำตัดสินต่อศาลสูงสุดของอียิปต์ได้
+++ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้หลังเหตุระเบิดคลังน้ำมันแห่งหนึ่งนอกกรุงเคียฟของยูเครน เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางคืนต่อเนื่องมาถึงช่วงเช้าของวันอังคาร ลุกลามไปถึงถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิง16ถัง ส่งผลให้เกิดควันดำพวยพุ่งไปขึ้นสู่ท้องฟ้าของคลังน้ำมันห่างจากกรุงเคียฟ 30กม.มีนักผจญเพลิงสูญหายไป3คน คาดว่าเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ดับเพลิงคลังน้ำมันในครั้งนี้ ขณะที่สื่อท้องถิ่นรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 11คน และเสียชีวิต1ศพที่โรงพยาบาล ทางการต้องระดมหน่วยดับเพลิง62หน่วยและยังต้องใช้รถไฟ3ขบวนขนน้ำมาเพื่อใช้ในการดับเพลิงด้วย