เอเอฟพีรายงานว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯกลับมาลงพื้นที่หาเสียงอีกครั้งที่เมืองฟลินต์ รัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นแบทเทิลกราวด์สเตทเมื่อวานนี้(17 ก.ย.) 2 วันหลังเหตุคนร้ายลอบยิงครั้งที่ 2 ขณะที่นายทรัมป์เล่นกอล์ฟอยู่ที่สนามกอล์ฟของตนเองที่รัฐฟลอริดาเมื่อวันอาทิตย์ โดยนายทรัมป์จัดรูปแบบการปราศรัยแบบทาวน์ฮอลล์คือ ตอบคำถามสดจากผู้เข้าฟังการปราศรัยโดยตรง สำหรับเหตุลอบยิงที่เกิดขึ้น นายทรัมป์กล่าวหาประธานาธิบดีโจ ไบเดนและรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต เป็นต้นเหตุโดยสร้างวาทกรรมการเมือง กล่าวหาเขาเป็นภัยคุกคามต่อระบอบประชาธิปไตย
ด้านนางแฮร์ริส ลงพื้นที่หาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งเป็นแบทเทิลกราวด์สเตทเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งไปร่วมรายการให้สัมภาษณ์กับสมาคมนักข่าวผิวสีแห่งชาติ(NABJ)ด้วย ก่อนหน้านี้ นางแฮร์ริสให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ นูวาเน็ตเวิร์ค(Nueva Network)ภาคภาษาสเปน แสดงความเห็นเรื่องเหตุลอบยิงนายทรัมป์ว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ ทั้งประณามการใช้ความรุนแรงกับนักการเมืองของสหรัฐฯ ย้ำว่าเธอสนับสนุนให้มีการเปิดเวทีพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์ ความรุนแรงไม่ควรจะเกิดขึ้นในชุมชนต่างๆสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ระบุว่า การที่นายทรัมป์ไปลงพื้นที่หาเสียงที่รัฐมิชิแกนและนางแฮร์ริสลงพื้นที่ที่รัฐเพนซิลเวเนียบชี้ว่าผู้สมัครทั้งสองคนมุ่งเน้นการหาเสียงในรัฐแบทเทิลกราวด์สเตทในช่วง 48 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง 5 พ.ย.นี้ ขณะเดียวกัน มีผลการจัดทำโพล์ล่าสุดจากมหาวิทยาลัยซัฟฟอล์กและหนังสือพิมพ์ USA Today พบว่า นางแฮร์ริส มีคะแนนนายทรัมป์เล็กน้อยที่ร้อยละ 49 ต่อ 46 ในรัฐเพนซิลเวเนีย โดยนางแฮร์ริสได้รับการสนับสนุนส่วนใหญ่จากกลุ่มสตรี และเมื่อจำแนกกลุ่มประชากร ผลสำรวจพบว่า นางแฮร์ริสมีคะแนนนำนายทรัมป์จากกลุ่มสตรีในรัฐเพนซิลเวเนียที่ร้อยละ 56 ต่อ 39 ขณะที่นายทรัมป์ได้รับคะแนนนิยมจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งชาย มีคะแนนนำนางแฮร์ริสที่ร้อยละ 53 ต่อ 41
#การเมืองสหรัฐ