แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่กลาโหมและอดีตเจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ 4 คนเปิดเผยว่า สหรัฐฯและเกาหลีใต้อาจจะสามารถลงนามในข้อตกลงมาตรการพิเศษ(Special Measures Agreement-SMA)ว่าด้วยแชร์ค่าใช้จ่ายในการคงกำลังทหารสหรัฐฯในเกาหลีใต้ฉบับใหม่ ก่อนสิ้นปีนี้ ถึงแม้ว่าข้อตกลงฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะสิ้นอายุปลายปีหน้า(2568) หลังเกาหลีใต้ กังวลว่า หาก อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้ง และกลับเข้ามาบริหารประเทศสมัยที่ 2 อาจจะทำให้การเจรจาทำได้ลำบากกว่ารัฐบาลของประธานาธิบดี โจไบเดน
การเจรจาข้อตกลงฉบับนี้ เคยสร้างความร้าวฉานให้กับสองพันธมิตรคือ สหรัฐฯและเกาหลีใต้ ในยุคที่นายทรัมป์เข้ามาบริหารประเทศสมัยแรก เนื่องจากนายทรัมป์เรียกร้องให้เกาหลีใต้จ่ายในอัตราร้อยละ 400 สำหรับการคงกำลังทหารสหรัฐฯ 28,500 นายในเกาหลีใต้ ระหว่างการเจรจาข้อตกลง SMA ฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ด้านฝ่ายสนับสนุนข้อตกลงฉบับนี้ระบุว่า การคงกำลังทหารสหรัฐฯจำนวนมากในคาบสมุทรเกาหลีต่อไป มีความสำคัญต่อการเสริมสร้างความเข้มแข็งระหว่างพันธมิตรทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือเนื่องจากนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือประกาศจะเดินหน้าพัฒนาคลังอาวุธนิวเคลียร์ และการคงกำลังทหารสหรัฐฯในภูมิภาคนี้จะช่วยให้สหรัฐฯยับยั้งการขยายอิทธิพลทางทหารของจีนในภูมิภาคนี้ด้วย
ภายใต้ข้อตกลง SMA ฉบับปัจจุบัน เกาหลีใต้จะต้องจ่ายให้กับสหรัฐฯปีละ 1,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากข้อตกลง SMA ฉบับก่อนร้อยละ 13.9 แม้ว่า ทั้งสองฝ่ายเจรจาเรื่องการขยายข้อตกลงฉบับนี้มาแล้ว 7 ครั้ง โดยการเจรจารอบหลังสุดมีขึ้นปลายเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่บางคนหวั่นเกรงว่า การทำข้อตกลงให้เสร็จในระยะนี้อาจจะทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากนายทรัมป์ แต่อีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯในรัฐบาลไบเดนไม่อยากให้เกาหลีใต้ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯในเอเชียเดือดร้อนจากนโยบายของนายทรัมป์ ถ้าชนะการเลือกตั้ง 5 พ.ย.นี้
สำหรับข้อตกลง SMA ฉบับปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ในยุครัฐบาลทรัมป์ เป็นผู้เจรจาเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆส่วนใหญ่ แต่ยังไม่ได้ประกาศใช้เนื่องจากนายทรัมป์พ้นวาระเสียก่อน จนกระทั่งต่อมาประธานาธิบดีไบเดน เข้ามาบริหารประเทศในปี 2564 ปรับแก้เงื่อนไขใหม่ก่อนประกาศใช้ข้อตกลงฉบับนี้ในเดือนมี.ค.ปีเดียวกัน
#สหรัฐ
#เกาหลีใต้
#ค่าใช้จ่ายกลาโหม
#คาบสมุทรเกาหลี