ประธานาธิบดีโจ ไบเดน พร้อมรองประธานาธิบดีแฮร์ริส, อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และนายเจดี แวนซ์ สว.รัฐโอไฮโอ ผู้สมัครรองประธานาธิบดีในทีมของนายทรัมป์ได้มาร่วมพิธีรำลึก 23 ปี เหตุวินาศกรรมสหรัฐฯในที่อนุสรณ์สถานกราวด์ซีโร่ (Ground Zero)ในนครนิวยอร์ก พร้อมกับนายชัก ชูเมอร์ สว.รัฐนิวยอร์ก นางเคธี โฮชูล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก นายอเลฮานโดร มายอร์กาส รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯและนายไมเคิล บลูมเบิร์ก อดีตนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก
นายทรัมป์และนางแฮร์ริสจับมือทักทายกันระหว่างร่วมพิธีรำลึกเหตุวินาศกรรมสหรัฐฯที่อนุสรณ์สถานกราวด์ซีโร่ (Ground Zero) ก่อนเริ่มพิธีรำลึกในเวลา 08.30น.ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา19.30น.ของวันนี้ตามเวลาของประเทศไทย หลังจากทั้งคนร่วมอภิปรายทางโทรทัศน์เมื่อคืนนี้ โดยนายทรัมป์ให้สัมภาษณ์ทางรายการฟ็อกซ์ แอนด์ เฟรนด์ส(Fox & Friends)ทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ในวันนี้ว่า เหตุวินาศกรรมสหรัฐฯ 11 ก.ย.2544 เป็นวันที่น่าสะเทือนใจของคนทั้งประเทศอีกวันหนึ่งและไม่ควรจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
ทั้งนี้ เหตุวินาศกรรมสหรัฐฯ 11 ก.ย.2544 โดยกลุ่มอัลกออิดะห์ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับอนาคตของความมั่นคงไม่เฉพาะกับสหรัฐฯ แต่กระทบความมั่นคงของทุกประเทศทั่วโลก ทำให้ทั่วโลกร่วมปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายมาจนถึงปัจจุบัน ผ่านมากว่า 20 ปีนับตั้งแต่ผู้ก่อการร้าย 19 คน พร้อมอาวุธร่วมกันจี้เครื่องบินโดยสาร 4 ลำ ในจำนวนนี้ 2 พุ่งชนตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์ก เครื่องบินลำที่ 3 พุ่งชนอาคารเพนตากอน(กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ)ในชานกรุงวอชิงตันดี.ซี.และเครื่องบินโดยสารลำที่ 4 ตกในทุ่งนาในรัฐเพนซิลเวเนีย หลังผู้โดยสารของเครื่องบินโดยสารของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เที่ยวบิน 93 ร่วมกันขัดขวางคนร้าย ซึ่งหลายคนเชื่อว่าคนร้ายมุ่งเป้าโจมตีอาคารสภาคองเกรส หรือทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตันดี.ซี
แผนก่อเหตุวินาศกรรมครั้งนี้ วางแผนโดยอุซามะ บินลาดิน อดีตผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2,977 รายเมื่อ 23 ปีที่ผ่านมา นับเป็นเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯและจุดชนวนให้สหรัฐฯและพันธมิตรร่วมมือปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายทั่วโลก แต่สหรัฐฯยุติการปราบปรามกลุ่มอัลกออิดะห์และพันธมิตร เช่น กลุ่มตอลิบาน พร้อมทั้งถอนกำลังทหารจากอัฟกานิสถานในปี 2564 พร้อมประกาศชัยชนะในการทำสงครามกับกลุ่มอัลกออิดะห์และกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส)ในอิรักและซีเรีย
แต่ผู้เชี่ยวชาญเช่น นายบิล รอกจิโอ นักวิเคราะห์จากมูลนิธิเพื่อปกป้องประชาธิปไตยและบรรณาธิการนิตยสารสงครามชื่อ ลอง วอร์เจอร์นาล เตือนว่า ภัยคุกคามจากกลุ่มหัวรุนแรงยังไม่หมดไป ยังคงมีอยู่จวบถึงปัจจุบัน โดยเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการเช่น เนื่องจากยากที่จะก่อเหตุโจมตีสหรัฐฯในปี 2544 แต่นักรบพลีชีพจากกลุ่มอักกออิดะห์และกลุ่มไอเอสใช้วิธีบุกเดี่ยวโจมตี ซึ่งเป็นเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ก่อนเหตุโจมตีสหรัฐฯในปี 2544 กลุ่มอัลกออิดะห์ปฏิบัติการอย่างเปิดเผยในอัฟกานิสถานและมีเครือข่ายอีกในประเทศต่างๆกว่า 10 ประเทศ แต่ในปัจจุบันมีแหล่งกบดาน และพื้นที่ต่างๆซึ่งนักรบกลุ่มอัลกออิดะห์และกลุ่มไอเอสราว 1,000 คนทำการสู้รบทั่วโลก
#รำลึกเหตุโจมตีสหรัฐ