นายกรัฐมนตรีอิตาลี เรียกร้องอียูเพิ่มความช่วยเหลือผู้อพยพ

นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี แห่งอิตาลี่ กล่าววิจารณ์กลุ่มประเทศสหภาพยุโรป หรืออียู ตลอดจนแคว้นของอิตาลีที่ปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือผู้อพยพจากทะเลเมดิเตอเรเนียน ทั้งที่แสดงความเห็นรับรู้ว่าปัญหาผู้อพยพเข้าสู่ภาวะวิกฤติรุนแรง แต่ก็ปฏิเสธที่จะรับผู้อพยพไปตั้งถิ่นฐานและปฏิเสธการดูแลผู้อพยพในระหว่างที่มีการดำเนินการตามกระบวนการของผู้ลี้ภัยไปประเทศที่ 3

ทั้งนี้ บรรดาภูมิภาคทางเหนือของอิตาลี่ ประกาศไม่ยอมรับผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายเพิ่มเติม  เนื่องจากเห็นว่าในเวลานี้ต้องดูแลผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวนมาก ทั้งขู่ว่าจะลดการนำส่งภาษีให้รัฐบาลกลาง หากรัฐบาลยังจัดสรรผู้อพยพมาอีก ส่วนเกาะห่างไกลที่มีศูนย์พักพิงชั่วคราวก็ไม่พอใจการดูแลผู้อพยพเช่นกัน แม้แต่ที่ซิซิลีที่มีปัญหาการว่างงานสูง การดูแลผู้อพยพจำนวนมากยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหาในพื้นที่

เฉพาะในสัปดาห์นี้ อิตาลี่ช่วยผู้อพยพเกือบ 6,000 คนและในปีนี้ช่วยไว้มากกว่า 50,000 คนส่วนใหญ่เดินทางทางเรือมาจากลิเบีย แต่จากสภาพเรือที่ไม่มีความแข็งแรงและสภาพอากาศ ทำให้ประสบเหตุในระหว่างการเดินทาง มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 1,500 ศพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิตาลีกล่าวในระหว่างการเข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม 7ประเทศหรือจี 7 ที่เยอรมนี ที่เขาเห็นว่า อียูควรตระหนักว่า มาตรการต่างๆ ที่ออกมานั้นไม่สามารถหยุดการอพยพได้ และเรียกร้องให้ทุกคนลงมือปฏิบัติให้เห็นผลด้วยการรับผู้อพยพกว่า 24,000 คนที่กำหนดไว้ในปัจจุบันไปตั้งถิ่นฐาน

..