เมืองไทยฯ(1):นายกฯ ยืนยันปัญหาทุจริตไทยดีขึ้น/ป.ป.ช.นัดอดีตนายกฯและครม.ชี้แจงเรื่องการจ่ายเงินเยียวยา/สธ.นัดชุมนุมค้านสั่งย้ายปลัด

09 มิถุนายน 2558, 07:25น.


เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประกาศเจตนารมณ์ "ต่อต้านการทุจริตสร้างจิตสำนึกไทยไม่โกง" โดยระบุว่า ปัญหาการทุจริตมีหลายรูปแบบ และวันนี้ทุกอย่างดีขึ้น ฝากบอกคณะทูตานุทูตว่าอย่ากังวล ประเทศไทยไม่ได้เลวร้ายทั้งหมด และขณะนี้กำลังปรับปรุงให้สอดคล้องกับการค้าการลงทุน นอกจากนี้การจัดอันดับดัชนีชี้วัดภาพลักษณ์คอร์รัปชั่นประจำปี 2557 ไทยมี 38 คะแนนจาก 100 คะแนนอยู่ในอันดับที่ 85 จาก 175 ประเทศทั่วโลก เป็นอันดับที่ 12 จาก 28 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากปีก่อนหน้าที่อยู่อันดับที่ 102 ของโลก และอันดับที่ 16 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แม้คะแนนประเทศจะสูงขึ้น และอยากให้ทุกคนติดตามดูแลเรื่องการทุจริต การทำงานต้องมีความชัดเจน ส่วนจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรม หากผิดชัดเจนก็ต้องถูกดำเนินการ ที่วิจารณ์ว่าถูกกระทำเพียงฝ่ายเดียวนั้นไม่ใช่ ทุกอย่างว่าตามกระบวนการ ยืนยันว่าไม่ใช่การแก้แค้นหรือทำลายล้างกัน



ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงรายชื่อ 152 ข้าราชการส่อทุจริตกลุ่มที่ 2 ซึ่งในขั้นตอนต่อไปคือ การตรวจสอบด้วยการแยกกลุ่มประเภทความผิด และการตรวจสอบต้องโปร่งใส เป็นธรรมกับทุกคน จึงขอให้รอฟังประกาศพร้อมกันในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ทั้งไม่ยืนยันว่ามีข้าราชการระดับปลัดกระทรวงหรือไม่



ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงการตรวจสอบกรณีโครงการจัดซื้อจัดจ้างยาปราบศัตรูพืชกรณีเกิดภัยพิบัติในหลายจังหวัดว่า มีคำร้องส่งเข้ามาหลายฉบับ ส่วนที่นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่ามีสมาชิกสนช. 2 คนมีส่วนเกี่ยวข้องในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการนั้น ยืนยันว่าจะพิจารณาไปตามพยานหลักฐาน ส่วนการถอดถอนต้องแล้วแต่รัฐบาล แต่ขอให้เข้าใจว่า กรณีอาญากับกรณีถอดถอนนั้น ไม่เหมือนกัน เพราะการถอดถอนในกฎหมายระบุเพียงว่ามีพฤติการณ์ ส่อว่าทุจริต ส่อว่าประพฤติมิชอบ หรือร่ำรวยผิดปกติ



ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า หากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบเสร็จแล้ว กระทรวงมหาดไทยสามารถพิจารณาทางวินัยได้เลย แต่กรณีนี้ที่เป็นข้าราชการเกษียณ ป.ป.ช. จะไต่สวนชี้มูลความผิดลงโทษทางแพ่งและอาญา



ส่วน นพ.ธานินทร์ สีวราภรณ์สกุล ผู้อำนวยการ ร.พ.พระนครศรีอยุธยา และประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ.รพท.) กล่าวว่า ในวันนี้ กลุ่มประชาคมสาธารณสุขเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย นัดชุมนุมใหญ่ เพื่อเรียกร้องให้มีการชี้แจงคำสั่งย้ายนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่า จะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน



ด้านศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า การสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีของนพ.ณรงค์ มีกำหนดการสอบสวนเสร็จในสัปดาห์หน้า ซึ่งในเบื้องต้นเป็นกรณีที่ นพ.ณรงค์ไม่ปฏิบัติตามนโยบาย จึงต้องมีการสอบว่าเป็นเพราะเหตุใด



ส่วนการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ซึ่งพบว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี คิดว่ากรรมาธิการเข้าใจเหตุผล ซึ่งร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวนั้น เสร็จสิ้นไปแล้วกว่าร้อยละ 80



โดยที่รัฐสภาเมื่อวานนี้ กมธ.ปฏิรูปการเมือง และกมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เข้าชี้แจงคำขอแก้ไข ซึ่งทั้ง 2 เสนอแก้ไข 132 ประเด็น รวมถึงการเสนอให้รัฐธรรมนูญมีลักษณะที่สั้น กระชับ และเอาส่วนที่ไม่จำเป็นไปไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ



การประชุม ครม.วันนี้ มีเรื่องต้องจับตาคือกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม. ให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ ธปท. และยังมีกรณีเงินกู้จากไจก้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง 1 หมื่นล้านบาท



ด้านคณะกรรมการ ป.ป.ช. นัดหมายให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี 34 คน ที่ร่วมกันมีมติจ่ายเงินเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองปี 2548-2553 โดยมิชอบ มารับทราบข้อกล่าวหา โดยคนแรกที่จะเข้าให้ถ้อยคำคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และในวันนี้ยังมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.), ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง, นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนางนลินี ทวีสิน อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยอดีต ครม.จะส่งทีมทนายเข้ารับทราบข้อกล่าวหา



และที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหนังสือทวงถามไปถึง พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ที่ปรึกษา (สบ 10) ประธานคณะกรรมการดำเนินการถอดยศ และ พล.ต.อ.ชัยยะ ขอเวลาเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเพื่อตรวจสอบรายละเอียดความถูกต้องของข้อมูล จากเดิมที่คาดว่าจะเสนอเมื่อวานนี้ ซึ่งพล.ต.อ.ชัยยะ ได้เรียกประชุมหารือเพิ่มเติมและตรวจทานข้อมูล คาดว่าจะเสนอเพื่อพิจารณาได้ไม่เกินวันที่ 11 มิถุนายนนี้แน่นอน ยืนยันว่าไม่มีการชี้นำ แม้จะมีความแตกต่างกันในเรื่องวิธีการ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างจะเป็นไปตามขั้นตอนและกฎหมาย



*-*

ข่าวทั้งหมด

X