ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ พร้อมเปิดเผยว่า ได้เฝ้าระวังพายุไต้ฝุ่น “ยางิ” ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวมาจากประเทศฟิลิปปินส์ แม้กรณีพายุไม่ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย แต่อาจมีอิทธิพลที่จะส่งผลให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในวันนี้มีร่องมรสุมพาดผ่านตอนกลางของประเทศ จึงคาดว่าในช่วง 7 วันข้างหน้านี้ จะมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ในภาคเหนือ โดยเฉพาะบริเวณที่ประสบอุทกภัย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.ตราดและจันทบุรี และภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งได้มีการเตรียมพื้นที่รองรับน้ำในเขื่อนต่าง ๆ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฝนไว้แล้ว
รวมถึงจะมีการใช้พื้นที่หน่วงน้ำ เช่น ทุ่งบางระกำ บึงบอระเพ็ด เพื่อใช้ในการหน่วงปริมาณน้ำก่อนจะไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา โดยปัจจุบันเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำในอัตราประมาณ 1,500 ลบ.ม. ต่อวินาที แต่จากปริมาณฝนซึ่งคาดว่าจะตกหนักในระยะนี้ อาจจะทำให้ในช่วงวันที่ 9 – 10 ก.ย. 67 ต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอยู่ในอัตราประมาณ 2,000 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบให้เกิดน้ำท่วมเพิ่มเติมในบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำ พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่นอกคันกั้นน้ำ ของ จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี พร้อมทั้งลงพื้นที่สำรวจจุดเสี่ยงน้ำหลาก ณ จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย. 67)
สทนช. ได้คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยจากฝนตกสะสม ในช่วง 3 วันนี้ ซึ่งอาจจะมีปริมาณฝนมากกว่า 200 มิลลิเมตร ได้แก่ ภาคตะวันออก ในพื้นที่ อ.เมืองตราด อ.บ่อไร่ จ.ตราด อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และภาคใต้ ในพื้นที่ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร อ.เมืองระนอง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง อ.ตะกั่วป่า อ.คุระบุรี จ.พังงา
#น้ำท่วมปี67