ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันขยับลงเกือบ 5% ในวันอังคาร(3ก.ย.67) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน หลังมีสัญญาณ ชี้ว่า ข้อพิพาทด้านการเมืองในลิเบียมีแนวโน้มคลี่คลายลง หลังจากที่ข้อพิพาทดังกล่าวได้ส่งผลให้ลิเบียระงับการผลิตและการส่งออกน้ำมันดิบในช่วงที่ผ่านมา
-สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.67 ร่วงลง 3.21 ดอลลาร์ หรือ 4.36% ปิดที่ 70.34 ดอลลาร์/บาร์เรล
-สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.67 ลดลง 3.77 ดอลลาร์ หรือ 4.86% ปิดที่ 73.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
บลูมเบิร์ก รายงานว่า ซาดิก อัล-คาบีร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางลิเบีย เปิดเผยว่าข้อตกลงระหว่างกลุ่มคู่อริในลิเบีย ดูเหมือนใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว เพื่อยุติข้อพิพาทที่จะเปิดทางให้กำลังผลิตน้ำมันของประเทศกลับมาอีกครั้ง กำลังผลิตน้ำมันดิบของลิเบียหยุดชะงัก เนื่องจากความไม่ลงรอยระหว่างกลุ่มทางการเมืองต่างๆ ในเรื่องเกี่ยวกับการควบคุมรายได้ทางพลังงานและธนาคารกลางของประเทศ ปัญหาดังกล่าวฉุดกำลังผลิตของลิเบีย ลดลงเหลือแค่ 591,00 บาร์เรลต่อวัน จนถึงวันที่ 26 สิงหาคม ต่ำกว่าระดับ 1.28 ล้านบาร์เรลต่อวัน
โอเล แฮนเซน นักวิเคราะห์จาก Saxo Bank กล่าวว่า กระแสคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลลิเบียฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกจะสามารถทำข้อตกลงกันได้นั้น ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในตลาดน้ำมัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ข้อพิพาททางการเมืองในลิเบียซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ทำให้เกิดความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง
รัฐบาลลิเบียตะวันออกซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเบงกาซีมีความขัดแย้งกับรัฐบาลลิเบียที่ตั้งอยู่ในกรุงตริโปลีในประเด็นที่ว่า ฝ่ายใดควรมีอำนาจในการควบคุมธนาคารกลางลิเบียและรายได้จากน้ำมัน
ราคาน้ำมันยังถูกกดดัน หลังจาก สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) เตรียมเดินหน้าแผนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันรวม 180,000 บาร์เรล/วัน เริ่มตั้งแต่เดือนต.ค.67 ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ลิเบียลดการผลิตน้ำมัน เนื่องจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ
#น้ำมันโลกร่วง
#ต่ำสุดในรอบ9เดือน
แฟ้มภาพ