สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สมเด็จพระสันตะปาปาหรือโป๊ปฟรานซิส วัย 87 พรรษา ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก เดินทางด้วยเครื่องบินจากนครรัฐวาติกัน เป็นระยะทางเกือบ 33,000กม.(หรือ 20,500 ไมล์)เพื่อเริ่มต้นภารกิจการเยือนภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เริ่มจากอินโดนีเซีย,ปาปัวนิวกินี,ติมอร์ตะวันออกและสิงคโปร์ รวม 11 วัน ระหว่าง 2-13 ก.ย.67 นับเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างไกลสำหรับโป๊ปฟรานซิส พระองค์จะมีพระชนมายุครบ 88 พรรษาในเดือนธ.ค.นี้ อีกทั้งมีโรคประจำตัว เช่น โรคหลอดลมอักเสบ
ทั้งนี้ เครื่องบินของโป๊ปฟรานซิสมาถึงสนามบินกรุงจาการ์ตาในเวลา 11.30น. วันนี้(3 ก.ย.67) ระหว่างการเยือนอินโดนีเซีย โป๊ปฟรานซิสจะพบกับประธานาธิบดีโจโก วิโดโดของอินโดนีเซียในทำเนียบประธานาธิบดี,จะไปเยือนมัสยิดอิสติกลัล(Istiqlal mosque) ในกรุงจาการ์ตา เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาคริสต์กับอิสลามและจะทรงทำพิธีมิสซาสำหรับคริสต์ชนอินโดนีเซีย 70,000 คนในสนามกีฬาแห่งชาติในกรุงจาการ์ตา
ด้านนาซารุดดิน อุมาร์ อิหม่ามประจำมัสยิดอิสติกลัล ที่โป๊ปฟรานซิสจะมาเยือน แสดงความหวังว่าการเยือนของโป๊ปครั้งนี้เป็นโอกาสที่จะได้พูดคุยระหว่างผู้นำทางศาสนา เพื่อแสวงหาจุดยืนร่วมกัน พร้อมย้ำถึงความคล้ายกันในหลายๆเรื่องระหว่างศาสนาคริสต์กับอิสลาม ตลอดถึงชนเผ่าและความเชื่อต่างๆของชาวอินโดนีเซีย นับเป็นโป๊ปคนที่ 3 ที่มาเยือนอินโดนีเซีย ซึ่งมีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก
ขณะที่ นักวิเคราะห์ คาดว่า โป๊ปฟรานซิสจะทรงย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและความสำคัญของการเปิดเวทีพูดคุยระหว่างคนต่างศาสนา หลังการเยือนอินโดนีเซีย โป๊ปจะเสด็จไปเยือนปาปัวนิวกินี,ติมอร์ตะวันออกและสิงคโปร์ตามลำดับ ตั้งข้อสังเกตว่า ติมอร์ตะวันออก เป็นประเทศเดียวใน 4 ประเทศที่ทรงเยือนในครั้งนี้ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์
ในตอนแรก โป๊ปฟรานซิส วางแผนจะเยือนภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในปี 2563 แต่เลื่อนมาอยู่ในช่วงนี้เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
#โป๊ปฟรานซิส
#เยือนเอเชีย
แฟ้มภาพ