หลังจากเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.67) เครื่องบินแอร์บัส A350-1000 เที่ยวบิน CX383 ของคาเธ่ย์แปซิฟิค เดินทางจากฮ่องกงมุ่งหน้าไปที่เมืองซูริค สวิตเซอร์แลนด์ มีปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องอยู่หลายนาที ขณะบินอยู่เหนือทะเลทางตอนใต้ของฮ่องกง
เว็บไซต์ไฟลท์เรดาร์24(Flightradar24) ระบุว่า นักบินขับเครื่องบินบินวน 2 รอบ ก่อนนำเครื่องลงจอดที่สนามบินฮ่องกงได้อย่างปลอดภัย เพียง 75 นาที หลังบินออกจากสนามบินฮ่องกง ขณะที่ การเดินทางไปเมืองซูริค ต้องใช้เวลานานถึง 12 ชั่วโมง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคแอร์เวย์ของฮ่องกง เปิดเผยว่า คาเธ่ย์แปซิฟิคได้ยกเลิกเที่ยวบินขากลับรวม 24 เที่ยวจากวันจันทร์จนถึงวันพฤหัสบดีนี้(2-5 ก.ย.67) พร้อมทั้งเริ่มตรวจสอบเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A350 ทั้ง 48 ลำ พร้อมเปลี่ยนอะไหล่ชิ้นส่วนใหม่ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทโรลส์-รอยซ์ ของอังกฤษ ในฐานะซัพพลายเออร์เครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินแอร์บัส ปิดตลาดเมื่อวานนี้ ร่วงลงร้อยละ 6 และทำให้ดัชนีหุ้นกลุ่มกลาโหมและอวกาศของยุโรป ร่วงลงร้อยละ 2.8
คาเธ่ย์แปซิฟิค คาดว่า ขั้นตอนการตรวจสอบและการซ่อมบำรุงเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A350 จะใช้เวลาหลายวันกว่าจะดำเนินการเสร็จ เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือ แต่คาเธ่ย์แปซิฟิคไม่ได้ให้รายละเอียดว่า ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ชิ้นใดมีปัญหา แต่ระบุว่า เป็นครั้งแรกที่มีการตรวจพบปัญหาเกี่ยวกับชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ของเครื่องบินแอร์บัสรุ่น A350 ทั่วโลก ขณะที่แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ที่ทราบเรื่อง เปิดเผยว่า ชิ้นส่วนที่มีปัญหาคือ หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่นำเชื้อเพลิงเข้าสู่เครื่องยนต์สันดาปภายใน
โฆษกบริษัทแอร์บัส ขอให้ติดต่อสอบถามเรื่องนี้กับสายการบินและบริษัทโรลส์-รอยซ์ ผู้ผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินแอร์บัสโดยตรง เบื้องต้นบริษัทได้ทราบเรื่องแล้ว พร้อมให้คำมั่นจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค และทีมสอบสวนของแอร์บัสและหน่วยงานควบคุมการบินพลเรือนของฮ่องกง
#คาเธ่ย์แปซิฟิค
#เครื่องบินแอร์บัสA350