สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า หน่วยยามฝั่งของจีน(CCG)และหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์(PCG) ต่างกล่าวโทษซึ่งกันและกัน เป็นต้นเหตุทำให้เหตุเรือลาดตระเวนของทั้งสองฝ่ายชนกันครั้งล่าสุดในบริเวณอาณาเขตพิพาทใกล้แนวสันดอนซาบรีนาโชล (Sabina Shoal)ในทะเลจีนใต้ เมื่อเที่ยงของวานนี้(31 ส.ค.) เวลา 12.06น.ซึ่งจีนเรียกว่า แนวปะการังเซียนบิน(Xianbin Reef) แต่ไม่มีลูกเรือของฝ่ายใดบาดเจ็บ
นายหลิว เต๋อจวิ้น โฆษกหน่วยยามฝั่งจีน(CCG) เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน กล่าวหาเรือลาดตระเวนของฟิลิปปินส์ หมายเลข 9701 จงใจพุ่งชนเรือลาดตระเวนของจีนหมายเลข 5205ใกล้แนวสันดอนซาบรีนาโชล ขณะเรือลาดตระเวนของจีนทำการลาดตระเวนตามสิทธิ์และอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย พร้อมกล่าวหาเรือหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ไม่มีความเป็นมืออาชีพและแล่นเรือในลักษณะที่เสี่ยงเกิดอันตรายต่อลูกเรือจีน
ด้านนายเจย์ ทาร์เรียลา โฆษกหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ โพสต์ข้อความทาง X กล่าวหาหน่วยยามฝั่งจีนจงใจชนเรือลาดตระเวนเรือ บีอาร์พี เทเรซา มักบานัว(BRP Teresa Magbanua)ของฟิลิปปินส์ ซ้ำๆ 3 ครั้ง ทั้งๆที่หน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์ไม่ได้ยั่วยุก่อน และแล่นเรืออยู่ในน่านน้ำของฟิลิปปินส์ ที่ผ่านมา เกิดเหตุลาดตระเวนของจีนและฟิลิปปินส์ชนกันมาหลายครั้งแล้ว และเกิดเหตุเผชิญหน้าล่าสุดใกล้แนวสันดอนซาบรีนาโชลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านนายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประณามหน่วยยามฝั่งของจีนว่าจงใจชนเรือยามฝั่งฟิลิปปินส์ซ้ำ 3 ครั้งเมื่อวานนี้ โดยตั้งข้อสังเกตว่า ในเดือนส.ค.2567 จีนใช้กำลังขัดขวางการปฏิบัติการทางอากาศและการลาดตระเวนทางทะเลของฟิลิปปินส์ในทะเลจีน หลายครั้ง รวมถึงบริเวณแนวสันดอนซาบรีนาโชล ซึ่งดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมาย พร้อมขอให้ประเทศจีนปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเลี่ยงกระทำการที่เสี่ยงอันตรายและสร้างความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นมาในภูมิภาคนี้
สำหรับแนวสันดอนซาบรีนาโชลอยู่ห่างจากชายฝั่งทางตะวันตกของฟิลิปปินส์ 86 ไมล์ และอยู่ห่างจากประเทศจีน 745 ไมล์ ประเทศจีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนืออาณาเขตเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ว่าเป็นดินแดนของจีน แม้ว่าไม่สอดคล้องกับคำชี้ขาดจากศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศในปี 2559
#จีนฟิลิปปินส์
#เรือชนทะเลจีนใต้