พรรคเอเคพี ที่เป็นพรรครัฐบาลตุรกี พบกับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งทั่วไปเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า พรรครัฐบาลจะชนะเลือกตั้งอีกครั้ง โดยพรรคเอชดีพีที่เป็นชาตินิยมเคิร์ด ครองเสียงส่วนใหญ่เป็นครั้งแรก ตามที่สถานีโทรทัศน์ของทางการตุรกี รายงานว่า พรรครัฐบาลมีคะแนนร้อยละ 41 ซึ่งนายกรัฐมนตรีอาห์เหม็ด ดาวูโตกลู กล่าวยอมรับผลการเลือกตั้ง ที่เขากล่าวว่า เป็นการตัดสินใจของประชาชน
ขณะที่ผลการเลือกตั้ง จะมีผลกระทบต่อนโยบายของประธานาธิบดีเรเจฟ ทายยิป แอร์โดอาน แห่งตุรกีที่อยู่ในอำนาจมาตั้งแต่ปี 2546 และต้องการเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ของสมาชิกสภาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นการขยายอำนาจให้สามารถดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย
ทั้งนี้ มีพรรคการเมืองลงสมัครรับเลือกตั้ง 20 พรรค ผู้สมัครรวมทั้งสิ้น 9,861 คน นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครอิสระอีก 165 คน เพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 550 ที่นั่ง อย่างไรก็ตามการที่ชาวเคิร์ด เป็นชนส่วนน้อยของตุรกี แต่กลับกวาดที่นั่งส่วนใหญ่ในสภาได้สำเร็จ ยังแสดงให้เห็นว่า ชาวตุรกีที่ให้การยอมรับนโยบายของชาวเคิร์ดมีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ นายเซลาฮัตติน เดมริตาส ผู้นำพรรคเอชดีพี ยังประกาศว่าจะไม่จัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคเอเคพี เพราะเห็นว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าประชาชนไม่สนับสนุนการขยายอำนาจประธานาธิบดี และพรรคเอเคพี
..