สถานการณ์ น้ำท่วมในภาคเหนือปีนี้ที่รุนแรงมากขึ้น นายสนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสจ์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า ทำไมภาคเหนือตอนบนในช่วงนี้จึงเกิดฝนตกหนักมากกว่าปีก่อนๆ ทั้งที่ยังไม่มีพายุพัดเข้ามา สาเหตุมาจาก 2 ประการ
1.ภาคเหนือตอนบนในช่วงเดือนสิงหาคมกันยายน มีร่องมรสุมความกดอากาศต่ำพาดผ่านบรเวณจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่อง สอน น่าน พะเยา แพร่ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังคงพัดปกคลุมประ เทศไทยในระยะนี้ยังมีกำลังค่อนข้างแรงเป็นบางช่วง ได้พัดนำความชื้นจากทะเลมาปะทะกับร่องมรสุมจึงทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องได้เกือบทุกวันและตกหนักถึงหนักมากในบางครั้งร่องมรสุม มีลักษณะเป็นแนวพาดขวางในทิศตะวันออก-ตะวันตกโดยมีลักษณะเป็นแนวของความกดอากาศต่ำหรืออากาศร้อนขนาดกว้างประมาณ 6 ถึง 8 องศาละติจูด ร่องมรสุมจะอยู่ในเขตร้อนใกล้ๆ เส้นศูนย์สูตรและเลื่อนขึ้น-ลงได้ตามแนวโคจรของดวงอาทิตย์ โดยจะเป็นบริเวณที่มีเมฆมากเมื่ออากาศเย็นมาปะทะจะทำให้เกิดฝนตกหนักได้ เมื่อร่องนี้พัดผ่านที่พื้นที่บริเวณใดก็จะทำให้ที่นั้นฝนตกอย่างหนาแน่นได้
2. สิ่งที่น่าแปลกก็คือ ฝนที่ตกลงมาใน ปี 67 นี้ที่ภาคเหนือตอนบน กลับมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าที่เคยตกในในปีที่ผ่านๆมา ทำ ให้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมหนัก สาเหตุมาจากการที่อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น เกือบถึง 1.5 องศาเซลเซียสแล้ว การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่สูงขึ้นทำให้น้ำในพื้นดินและแหล่งน้ำรวมทั้งมหาสมุทรถูกระเหยมากขึ้นกว่าปกติระเหยขึ้นไปในอากาศโดยอา กาศร้อนจะอุ้มความชื้นไว้กลายเป็นเมฆฝน (ข้อมูลจากงานวิจัยในสหรัฐอเมริกาพบว่า อุณหภูมิที่สูงขึ้นเฉลี่ยทุกๆ1องศาจะทำให้อากาศมีความชื้นเพิ่มขึ้นมากกว่า7%)
หากเมฆฝนดังกล่าวลอยไปตรงแนวร่องมรสุมที่พัดผ่านพอดียิ่งทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของเมฆฝนในบริเวณนั้นมากขึ้นไปอีก2ถึง 3 เท่า เมื่อมีลมตะวันตกเฉียงใต้มาปะทะจึงทำให้ฝนตกหนักหนักมากกว่าปกติ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ภาคเหนือตอนบนในช่วงนี้ จึงทำ ให้ฝนตกในปริมาณมากกว่าปีก่อน ทั้งที่ยังไม่มีพายุพัดเข้ามา ตั้งแต่นี้ต่อไปบริเวณใดที่มีร่องมรสุมความกดอากาศต่ำพัดผ่านอาจจะมีฝนตกหนักมากขึ้น กว่าปกติ
#ฝนตกหนักภาคเหนือ