ปัญหาการเมืองในฝรั่งเศสที่จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถตั้งนายกฯได้ เนื่องจาก ผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนที่แล้ว ไม่มีพรรคที่ชนะด้วยเสียงข้างมากพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว พรรคแนวร่วมประชาชนใหม่ (Nouveau Front populaire) หรือ NFP พรรคการเมืองฝ่ายซ้ายของฝรั่งเศส ชนะเลือกตั้งคว้าที่นั่งสส.190 ที่นั่งจากทั้งหมด 577 ที่นั่ง เสนอชื่อ น.ส.ลูซี กาสเต็ทส์ ข้าราชการพลเรือนวัย 37 ปี ซึ่งไม่เคยลงเลือกตั้งทางการเมืองมาก่อน เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ไม่เห็นชอบกับการแต่งตั้งรัฐบาล ภายใต้การนำพรรคแนวร่วม NFP ย้ำว่า ฝรั่งเศสต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ และเห็นว่าการตั้งรัฐบาลใหม่ภายใต้การนำพรรคแนวร่วม NFP อาจจะแพ้การโหวตการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในกรณีที่พรรคฝ่ายค้านเสนอญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในอนาคต ทำให้วันนี้ (27ส.ค.67) นายมาครง ซึ่งเป็นผู้นำพรรคเรอเนซองส์ (RE) พรรคสายกลางที่แพ้การเลือกตั้ง ปรึกษาหารือกับผู้นำทุกพรรคการเมืองเพื่อหารือเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล
นายมาครง ขอให้พรรคฝ่ายซ้ายจับมือพรรคการเมืองอื่นๆ เช่น พรรคโซเชียลลิสต์ พรรคกรีนส์และพรรคคอมมิวนิสต์ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมเข้ามาบริหารประเทศอย่างมีเสถียรภาพ เพื่อสร้างความมั่นใจว่า จะไม่มีปัญหาในการเสนอร่างกฎหมาย
ล่าสุด พรรคแนวร่วม NFP แสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของนายมาครง เตรียมนัดกลุ่มผู้สนับสนุนร่วมการประท้วงและจะเสนอให้ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติของฝรั่งเศส เปิดการไต่สวนถอดถอนนายมาครงจากตำแหน่งประธานาธิบดี
นายมาครง ขอให้นายกาเบรียล อัตตาล วัย 34 ปี ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีรักษาการ จนกว่าพรรคต่างๆเจรจาจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ และเป็นช่วงที่ ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ระหว่างวันที่ 26 ก.ค.-11 ส.ค.67
ผลการเลือกตั้งเมื่อเดือนที่แล้ว พรรคแนวร่วมสายกลาง เอนเซมเบิล(Ensemble) ที่มีประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง เป็นแกนนำได้อันดับที่ 2 ได้ที่นั่งสส.160 ที่นั่ง และพรรคเนชั่นแนลแรลลี (National Rally) พรรคขวาจัดของนางมารีน เลอเปน อยู่ในอันดับที่ 3 ได้ 140 ที่นั่ง
#ฝรั่งเศส
#ถอดถอนมาครง