เงินบาทแข็งค่าที่สุดในรอบ 1 ปี (ก.ค. 66)ปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 33.97/98 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.93 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.87-34.04 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคยังแข็งค่า จากทิศทางดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า หลังเมื่อวันศุกร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกมาแถลงยืนยันที่จะลด ดอกเบี้ย ประกอบกับราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้เงินบาทแข็งค่าด้วย
ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,364.81 จุด เพิ่มขึ้น 9.94 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 47,339.20 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 466.21 ลบ.(SET+MAI)
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า เงินบาทที่กลับมาแข็งค่าขึ้นมาก เป็นไปตามภาวะตลาดการเงินโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ค่าเงินบาทจะแข็งค่าและอ่อนค่าตามปัจจัยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก และมองว่ายังไม่มีผลกระทบต่อภาคการส่งออก ซึ่งปัจจุบัน ปริมาณ และราคาสินค้าส่งออก ยังอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่อง ปัจจุบันดัชนี SET อยู่ที่ 1,300 จุดเศษ ๆ ซึ่งลดลงค่อนข้างมากจากระดับสูงสุดเดิม ทำให้ความมั่งคั่ง ของนักลงทุนลดลง โดยที่กระทรวงการคลัง คาดหวังจะเห็นดัชนี SET กลับขึ้นไปยืนที่ระดับ 1,800 จุด ซึ่งมี Market Cap อยู่ที่กว่า 20 ล้านล้านบาท ทำให้นักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทยกลับมามีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้ (26 ส.ค.) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ระดับ 17,798.73 จุด เพิ่มขึ้น 186.63 จุด
ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ปิดลบเล็กน้อยในวันนี้ (26 ส.ค.) โดยหุ้นกลุ่มส่งออก ลดช่วงลบในช่วงบ่าย หลังเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ซึ่งก่อนหน้านี้เงินเยนพุ่งแรงในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ดัชนีนิกเกอิ ปิดตลาดที่ระดับ 38,110.22 จุด ลดลง 254.05 จุด
#เงินบาทแข็งค่า
#ส่งออก