นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงงาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมใน 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ เพชรบูรณ์ และอุดรธานี มีสถานประกอบการ 21,258 แห่ง ลูกจ้าง 207,299 คน ที่ได้รับผลกระทบ จึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานประสานความช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดในพื้นที่ที่ประสบภัย เข้าพบผู้ประกอบการเพื่อพูดคุยถึงรายละเอียดในการจ้างงาน สำรวจผลกระทบต่อลูกจ้างผู้ประกอบการ รวมถึงการช่วยเหลือกรณีลูกจ้างขาดรายได้ นายจ้างไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ โดยให้ปลัดกระทรวงแรงงาน มอบหมายเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการ และวางแผนการให้ความช่วยเหลือ สถานประกอบการและลูกจ้างอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกัน ยังได้เปิดศูนย์ช่วยเหลือลูกจ้าง นายจ้างที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เพื่อรับเรื่องร้องเรียน ขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506
นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ได้กำชับให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าไปดูแลสิทธิประโยชน์ของลูกจ้างในพื้นที่ที่ไม่สามารถทำงานได้ เนื่องจากบ้านหรือสถานประกอบการถูกน้ำท่วม พร้อมตรวจสอบข้อมูลแรงงานที่ได้รับผลกระทบเพื่อให้การช่วยเหลือและคุ้มครองตามกฎหมาย รวมถึงสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานแก่ผู้ประกันตนกรณีนายจ้างหยุดประกอบกิจการชั่วคราวเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ซึ่งในกรณีนี้ ลูกจ้างที่ไม่สามารถทำงานได้เพราะประสบอุทกภัย ไม่ถือเป็นการขาดงานหรือละทิ้งหน้าที่ หากนายจ้างเลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชย ลูกจ้างที่หยุดงานจะยังคงได้รับค่าจ้างตามกฎหมาย รวมถึงสวัสดิการอื่นๆ และกรณีที่เกิดการเจ็บป่วยจากเหตุน้ำท่วมยังสามารถใช้สิทธิประกันสังคมได้ ส่วนสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อมายังกระทรวงแรงงานได้
...
แฟ้มภาพกระทรวงแรงงาน
#แรงงาน
#น้ำท่วม