บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แถลงผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567 โดยปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 64,437 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 16,475 ล้านบาท หรือร้อยละ 34.4 เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2566 พร้อมเน้นกลยุทธ์ ลดต้นทุน ทำสิ่งที่ถนัด ธุรกิจที่มั่นคงก็ขยายให้บทบาท Partner มากขึ้น คาดการณ์ครึ่งปีหลัง ธุรกิจโดยรวมยังคงตามเป้า ยันสิ้นปีประกาศแผนดำเนินการใหม่ของแต่ละธุรกิจทั้งหมดหลังบอร์ดอนุมัติทิศทางในภาพรวมแล้วเมื่อต้นเดือนนี้
ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. มุ่งสู่การเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน โดยเป็นกำไรจากธุรกิจ Hydrocarbon ร้อยละ 92 และธุรกิจ Non-Hydrocarbonร้อยละ 8 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2567 ที่ 0.80 บาทต่อหุ้น เมื่อรวมกับภาษีเงินได้ ปตท. และบริษัทในเครือ สามารถนำเงินส่งรัฐรวม 35,684 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจไทย ในภาพรวมครึ่งปีแรก กำไรจากธุรกิจในต่างประเทศเท่ากับ ร้อยละ25 และในประเทศร้อยละ 75
นอกจากนี้ ยังมีส่วนร่วมบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตด้านราคาพลังงาน ตั้งแต่ปี 2563 ในวงเงินกว่า 24,000 ล้านบาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน
ด้านกลยุทธ์ ดร.คงกระพัน กล่าวว่า ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทยและเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน หรือ "TOGETHER FOR SUSTAINABLE THAILAND, SUSTAINABLE WORLD" โดยเร่งสร้างความแข็งแรง และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในธุรกิจ Hydrocarbon ที่เป็น Core Business ของ ปตท. ที่ ปตท. ทำได้ดี แต่จะทำแบบเดิมไม่ได้ ต้องทำควบคู่กับการลดก๊าชเรือนกระจก และต้องปรับตัวพร้อมรับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
โดยธุรกิจในสาย Upstream and Power จะต้องเร่งขยายแหล่งสำรวจและผลิตร่วมกับ Partner เพื่อให้มีต้นทุนที่แข่งขันได้ รวมถึงการผลักดันการพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยและกัมพูชา (OCA) เพื่อช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานของประเทศ ในส่วนของธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้ามีการกำหนดทิศทางให้เสริมสร้าง Reliability และ Decartonize ให้กับกลุ่ม ปตท.
สำหรับธุรกิจ Downstream นั้น จะต้องปรับตัว และสร้างความแข็งแรงกับ Partner แสวงหาโอกาสในการสร้าง Synergy ร่วมกันเพิ่มเติม ทั้งนี้ธุรกิจน้ำมันและการค้าปลีกนั้นจะต้องมุ่งหน้าเป็น Mobility Partner ของคนไทย ปรับพอร์ตการลงทุนให้มีความสำคัญ (Substance) และ Asset Light หรือการหาทางลดต้นทุน รวมถึงการรักษาการเป็นผู้นำตลาดควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ Non-Hydrocabon
"ธุรกิจเกี่ยวกับไฮโดรเจน มีต้นทุนสูง แต่ก็เป็นทิศทางที่ต้องเดินไป ในธุรกิจที่ทำหน้าที่เป็น Investor Capital บางธุรกิจก็จะเริ่มลดสินทรัพย์ที่ไม่สร้างกำไร เพื่อเพิ่มรีเทิร์นให้กับ Shareholders ในด้าน Growth มองว่า เศรษฐกิจตอนนี้เป็นช่วงขาลง ก็ต้องระมัดระวัง การลงทุนสร้างโรงงานไปห้าปี แล้วพอเสร็จ ใครๆ ก็เลิกไปแล้ว แบบนี้ต้องระวัง เราจะเปิดช่องให้ Patner เขามาร่วมกันมากขึ้น ธุรกิจอะไรที่วิเคราะห์แล้วเรามีจุดเด่นก็ทำต่อไป อะไรที่ดูแล้ว สู้ไม่ไหว ก็ถอยออกมาให้ Partner มีบทบาทมากยิ่งขึ้น" ดร.คงกระพันกล่าว
โดยจะประเมินธุรกิจนี้ใน 2 มุมคือ ธุรกิจต้องมีความน่าสนใจ (Attractive) และ Right to Play หรือมีจุดแข็ง สามารถเข้าไป ต่อยอดในธุรกิจนั้นๆ ได้ และมี Partner ที่แข็งแรง ซึ่งมีแนวทางในการลงทุนในธุรกิจ Non-Hydrocaroon ดังนี้
1) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ EV ปตท. จะมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจบรรจุกระแสไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าลงทุนซึ่งจะต้องมีการควบรวมแบรนด์ต่างๆ ภายใต้กลุ่ม ปดท. และใช้ OR Ecosystem ที่มี Touch Paint อยู่ทั่วประเทศให้เป็นประโยชน์
2) ธุรกิจ Logistics ปตท. จะเน้นไปเฉพาะธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับ Core Business ของ ปดท. และมีความต้องการที่ชัดเจนและแข็งแรงอยู่แล้ว (Captive Demand) โดยยึดหลัก Asset Light และมี Partner ที่แข็งแรง และ
3) ธุรกิจ Life Science ปตท. จะต้องสามารถพึ่งพาตัวเองได้ทางการเงิน (Self-funding) และสร้าง Goodwill ให้กับสังคม
ปตท. ให้ความสำคัญเรื่อง Operational Excellence หรือ OpEx อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานทั้งกลุ่ม อีกทั้งมุ่งมุ่งมั่นเสริมศักยภาพบุคลากรและการมุ่งรักษาพื้นฐานที่สำคัญ มุ่งเน้นธรรมาภิบาล และการกำกับกิจการที่ดี และการมีความเป็นเลิศทางด้านการเงิน (Financial Excelence) ที่เป็นฐานสำคัญของการประกอบธุรกิจ
กลุ่ม ปตท. ยังมีส่วนร่วมรับเคลื่อนโยบาย Sot Power ของประเทศ โดยสนับสนุนสมาคมกีฬานวน 20 สมาคมภายใต้งบประมาณ 200 ล้านบาท ส่งเสริมศักยภาพคนไทยสู่สากล ตลอดจนดำเนินโครงการเพื่อสังคมและกิจกรรม เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในปีมหามงคลนี้ ได้แก่ โครงการพัฒนาพื้นที่กำแพงเพชร 6 ริมคลองเปรมประชากร จัดสร้างเป็นสวนสาธารณะจำนวน 10 ไร่ เปิดให้ประชาชนได้ประโยชน์ในการออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจ การผลิตหนังสั้นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นำเสนอโครงการตามพระบรมราโชบายพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
#กลยุทธ์ปตท
#กำไรครึ่งปี2567