เจ้าท่า เรียกเจ้าของเรือเจ็ทสกี-นักแสดงมาพบ ด้าน ตร.ให้ญาติจัดพิธีศพก่อน

19 สิงหาคม 2567, 10:55น.


           กรมเจ้าท่า รายงาน คดี คิวพี นายชินดนัย แซ่ลิ้ม  นักแสดงหนุ่มซีรีส์วาย ขับเจ็ทสกี ชนกับเรือให้บริการรับส่งผู้โดยสารหางยาว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นางปาริฉัจ หอบมั่น อายุ 43 ปี ผู้โดยสาร และนายประยูร อ่วมประทุม อายุ 66 ปี ผู้ขับขี่เรือหางยาว เหตุเกิดเวลา 21.00 น. คืนวันเสาร์ 17 ส.ค.67 สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุใกล้ท่าน้ำวัดบางกระเจ้านอก ตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ



           เรือเจ็ทสกี ลำเกิดเหตุ ชื่อเรือ เจ.เอ.พี.พี. หมายเลขทะเบียนเรือ 670000026 หมดอายุ 21 ธันวาคม 2567 เจ้าของเรือชื่อ ว่าที่ ร.ต. พรทวี จันทร์ม่วง ขณะเกิดเหตุ มีนายชินดนัย  เป็นนายท้ายผู้ขับขี่เรือ จากข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.ท. อิศรัฐ ตันสุ ร้อยเวรเจ้าของคดี ตรวจแอลกอฮอล์แล้วไม่พบปริมาณสารแอลกอฮอล์



           ในส่วนของกรมเจ้าท่า จากการตรวจสอบผู้ขับขี่ไม่มีประกาศนียบัตรผู้ควบคุมเรือ (ใบนายท้าย) โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ได้ออกคำสั่งห้ามใช้เรือและออกหนังสือเชิญเจ้าของเรือและผู้ขับเจ็ทสกีเข้ามาพบในวันนี้ (19 ส.ค.67)



           สถานีวิทยุ จส.100 สอบถาม พ.ต.ท.อิสรัตน์  ตันสุ  สว.สอบสวน สภ.พระประแดง  ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ยังไม่มีข้อสรุป  อยู่ระหว่างประชุม หารืออยู่ว่าจะอยู่ในพื้นที่สมุทรปราการหรือของกทม. และยังไม่ได้เรียกทั้งสองฝ่ายมาคุย เนื่องจากให้ญาติได้ดำเนินการเรื่องพิธีศพก่อน  



           สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ  ให้นายคณาธิป ภู่พันธ์ศรี เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญการ เป็นผู้ประสานงาน หากไม่มาพบเจ้าหน้าที่ภายในเวลาที่กำหนด ถือว่ามีความผิด ตามมาตรา 297 แห่งพ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ. 2456 บัญญัติว่า ผู้ใดไม่ปฎิบัติตามคำสั่งของเจ้าท่า หรือ เจ้าพนักงานในการปฎิบัติการตามอำนาจหน้าที่ ตามพ.ร.บ.นี้จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือ ปรับตั้งแต่ 500บาท ถึง 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



         เมื่อวานนี้ (18 ส.ค.67) สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสมุทรปราการ ประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพระประแดง  โดยตรวจสอบเพื่อให้พิสูจน์ทราบจุดเกิดเหตุร่วมกับเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง และร่วมตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อพิสูจน์หา DNA ของผู้ขับขี่เจ็ทสกีด้วย          จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ นายชาติ อยู่บริเวณท่าเรือวัดบางกระเจ้านอก เรือหางยาวได้ออกจากท่าเรือวัดบางกระเจ้านอก โดยมีผู้โดยสารรวมคนขับ จำนวน 3 คน เพื่อไปส่งคนขึ้นเรือบังเกอร์ ที่จอดกลางน้ำบริเวณระหว่างฝั่งพระราม 3 ต่อมาไม่ทราบว่าเรือเจ็ทสกี มาจากไหนวิ่งพุ่งชนบริเวณกราบขวาเรือบริเวณท้ายกึ่งกลาง เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็ว ทำให้นางปาริฉัจ และนายประยูร กระเด็นตกน้ำจมหายไป เหลือผู้โดยสารหัวเรือที่ยังอยู่บนเรือ ทราบชื่อคือนาย มงคลสวัสดิ์ เวิ่นกระโทก ได้เล่าว่าเรือเจ็ทสกีได้ชนเรือที่ตนนั่ง ทำให้ภรรยาตนและนายท้ายเรือตกและจมน้ำ ผู้เห็นเหตุการณ์ได้ขับเรือเพื่อเข้าช่วยเหลือเรือหางยาวลากเข้าฝั่งทันที และช่วยค้นหาผู้ประสบเหตุ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมนักประดาน้ำช่วยค้นหา



         นายชินดนัย พร้อมเพื่อนขับเจ็ทสกี ไปทานข้าวย่านบางกระเจ้า จำนวน 5 ลำ ระหว่างเดินทางกลับเข้าคลองจอมทอง กทม. ได้เกิดเหตุเรือชนเรือหางยาวบริเวณกลางแม่น้ำ ระหว่างพระราม 3 - วัดบางกระเจ้านอก ให้ข้อมูลว่า มองไม่เห็นเรือหางยาว เนื่องจาก ทัศนวิสัยมืด จึงทำให้ชน



 



#เจ็ทสกี



#เรือหางยาว



#คิวพี



Cr.ขอบคุณข้อมูล-ภาพ ห้องข่าวคมนาคม 



     

ข่าวทั้งหมด

X