ทรัมป์ ย้ำ เดโมแครตเป็นต้นเหตุเงินเฟ้อ-แฮร์ริสเตรียมแถลงนโยบายเศรษฐกิจ

          นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวแถลงข่าวที่สนามกอล์ฟของเขาในรัฐนิวเจอร์ซี โดยใช้เวลานานถึง 80 นาที มีเนื้อหาส่วนใหญ่คือการวิจารณ์นางกมลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตกับผลงานเศรษฐกิจของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ

          นายทรัมป์ กล่าวว่า นางแฮร์ริสเพิ่งประกาศว่าการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุดตั้งแต่วันแรกของการทำงานหากเธอชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี แต่เขาเห็นว่า วันแรกของการทำงานของนางแฮร์ริสคือเมื่อ 3 ปีครึ่งที่แล้ว เขายังกล่าวโทษนางแฮร์ริสว่าเป็นต้นเหตุของภาวะเงินเฟ้อ

          สื่อที่เข้าร่วมฟังการแถลงข่าวระบุว่า นายทรัมป์มีเป้าหมายสำคัญคือการวิจารณ์ว่านางแฮร์ริส แทบจะไม่เคยตอบคำถามนักข่าวเลยตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่แทนนายไบเดนเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ทำให้เวลาส่วนใหญ่ของการแถลงข่าวคือการโจมตีบุคลิกนางแฮร์ริส แม้ว่าแกนนำหลายคนของพรรครีพับลิกันจะต้องการให้นายทรัมป์พูดถึงนโยบายให้มากขึ้น

          และก่อนที่นายทรัมป์จะแถลงข่าวไม่กี่ชั่วโมง ทีมงานหาเสียงของนางแฮร์ริสยังได้เผยแพร่เอกสารที่เรียกว่า "คำแนะนำสื่อ" (media advisory) ที่เป็นการล้อเลียนการแถลงข่าวของนายทรัมป์ โดยใช้ถ้อยคำพาดหัวข่าวว่า "โดนัลด์ ทรัมป์ พูดจาเหลวไหลและเผยแพร่คำโกหกอันตรายต่อสาธารณะ แต่บ้านคนละหลัง" ซึ่งพาดพิงถึงมรดกของเขาที่เบดมินสเตอร์

          ส่วนนางแฮร์ริสมีกำหนดจะกล่าวปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจในวันนี้ (16 ส.ค.) ที่เมืองราลี รัฐนอร์ธแคโรไลนา คาดว่าเธอจะกล่าวถึงอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในนอร์ทแคโรไลนา แต่เธอโทษว่าราคาเนื้อสัตว์ที่อยู่ในระดับสูงเป็นสาเหตุที่ทำให้ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาหารเพิ่มสูงขึ้น และทำให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงขึ้น นอกจากนี้เธอจะกล่าวถึงนโยบายห้ามขึ้นราคาสินค้าบางรายการด้วย

          จากการสำรวจความคิดเห็นล่าสุด พบว่าประเด็นที่สำคัญที่ผู้มีสิทธิออกเสียงให้ความสนใจคือนโยบายทางเศรษฐกิจ และการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหาเสียงสำคัญของทั้งสองพรรค โดยตัวเลขล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อวันพุธ (14 ส.ค.67) พบว่าอัตราเงินเฟ้อลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.9 ในเดือนกรกฎาคม เป็นสถิติต่ำที่สุดนับตังแต่เดือนมีนาคม 2564

…

#โดนัลด์ทรัมป์

#กมลาแฮร์ริส

#โจไบเดน

#เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ