คณะกรรมการการศึกษาประจำเมืองโทดะ ในจังหวัดไซตามะ ในญี่ปุ่นทดลองใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กๆ ไม่ยอมไปโรงเรียน ซึ่งนับเป็นปัญหาท้าทายทางสังคมและการศึกษา โดยมีนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นที่ไม่ได้มาโรงเรียนเป็นเวลา 30 วันต่อเนื่องกันหรือนานกว่านั้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตัวเลขในปีงบประมาณ 2565 มีจำนวนเกือบ 300,000 คน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ระบุว่า เกิดจากแนวความคิดที่ว่านักเรียนไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียน
สำหรับข้อมูลที่จะนำเข้าสู่การวิเคราะห์ของ AI จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าเรียน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และสภาวะสุขภาพ บันทึกการเข้าพบพยาบาลโรงเรียน และรายงานการกลั่นแกล้ง จากนั้นระบบจะทำนายโดยอ้างอิงจากข้อมูลในอดีตของนักเรียนที่หยุดเรียน และแสดงให้เห็นว่านักเรียนคนหนึ่งมีความเสี่ยงที่จะขาดเรียนเรื้อรังเพียงใด ระบบจะกำหนดรหัสสีให้กับตัวเลขความน่าจะเป็นของนักเรียนแต่ละคน โดยไล่ตั้งแต่สีแดงที่มากที่สุดไปจนถึงสีชมพู สีส้ม และสีเหลืองที่น้อยที่สุด เพื่อให้ครูมีเครื่องมือในการระบุและช่วยเหลือนักเรียนที่ประสบปัญหา
จากการทดลองใช้งานจริงในโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น 18 แห่ง ได้ข้อสรุปว่า มีนักเรียน 1,193 คนอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง และคัดกรองเบื้องต้นโดยครู ที่ตัดสินว่ามีนักเรียน 265 คนในกลุ่มนี้ที่ควรได้รับความช่วยเหลือก่อน
เพื่อจัดการกับข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว คณะกรรมการการศึกษาได้วางกฎเกณฑ์เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและป้องกันการปฏิบัติที่เลือกปฏิบัติต่อนักเรียน รวมถึงการแจ้งให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้าว่าสามารถเลือกได้ว่าจะไม่เข้าร่วมโครงการ ผู้ที่อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียน เช่น อาจารย์ใหญ่ เป็นเพียงผู้เดียวที่มีสิทธิ์เข้าถึงผลการวิเคราะห์ของ AI
....
#ญี่ปุ่น
#เด็กไม่ไปโรงเรียน
#AI