การรุกคืบของยูเครนข้ามพรมแดนเข้าไปในพื้นที่ของรัสเซีย ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี(15 ส.ค.67) ว่าผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่กองกำลังยูเครนเปิดฉากโจมตีข้ามพรมแดนเข้าสู่ภูมิภาคเคิร์สก์ของรัสเซีย ล่าสุด กองกำลังยูเครน ได้เข้ายึดเมืองซูดจาของรัสเซียได้แล้ว กองกำลังของยูเครนเข้าประจำการและตั้งสำนักงานผู้บัญชาการทหารในเมืองนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากภูมิภาคเคิร์สก์ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 105 กิโลเมตร เป็นการยืนยันครั้งแรกจากประธานาธิบดีของยูเครนว่ากองทัพยึดเมืองดังกล่าวได้แล้ว จุดนี้เป็นจุดสำคัญ เนื่องจาก ตั้งอยู่ติดกับสถานีขนส่งน้ำมันของรัสเซีย ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการขนส่งน้ำมันจากรัสเซียผ่านยูเครนไปยุโรป เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดการคาดเดาว่าเป้าหมายประการหนึ่งของยูเครนอาจเป็นการลดแหล่งเงินทุนมหาศาลของรัสเซีย
พลเอกโอเลกซานเดอร์ ซีร์สกี ประธานคณะเสนาธิการกองทัพยูเครน กล่าวว่า กองกำลังยูเครนได้รุกคืบผ่านแนวป้องกันของรัสเซียไปแล้ว 35 กิโลเมตร (21.7 ไมล์) นับตั้งแต่เริ่มการโจมตีแบบกะทันหัน โดยยึดครองพื้นที่ได้ 1,150 ตารางกิโลเมตร และหมู่บ้าน 82 แห่ง
นอกจากนี้ ยูเครนใช้โดรน โจมตีสนามบินของรัสเซีย 4 แห่ง ถือเป็นการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในสงครามครั้งนี้ ประธานาธิบดีเซเลนสกี ชื่นชมกองทัพในการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นการโจมตีที่แม่นยำ ทันท่วงที และมีประสิทธิผล กองกำลังของยูเครนจับทหารรัสเซียในภาคใต้ของรัสเซีย และทำลายเครื่องบินขับไล่ของรัสเซียได้ 1 ลำ
ด้านเจ้าหน้าที่รัสเซีย กำลังวางแผนเพิ่มเติม เพื่อคุ้มครองประชาชนและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่บริเวณชายแดนติดกับยูเครน การโจมตีของยูเครนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนกว่า 121,000 คน บริเวณชายแดนต้องอพยพไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ส่วนในแคว้นเบลโกรอด มีผู้ที่ต้องอพยพแล้ว 11,000 คน
#ยูเครน
#บุกรัสเซีย
Cr.Reuters,CNN