จีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังผลผลิตของโรงงานเดือนก.ค.ชะลอตัว

         รอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนก.ค.เติบโตร้อยละ 5.1 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดจากร้อยละ 5.3 ในเดือนมิ.ย.และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ร้อยละ 5.2 ตรงกันข้าม ตัวเลขยอดค้าปลีกของจีนในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.7 จากร้อยละ 2.0 ในเดือนมิ.ย.และสูงเกินตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ร้อยละ 2.6

           นายจูเลียน อีแวนส์ พริตชาร์ด หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์จีน ของบริษัทวิจัยทางเศรษฐกิจ แคปิตัล อีโคโนมิกส์ (Capital Econimcs)เปิดเผยว่า ผลผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมของจีนชะลอตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนก.ค. แสดงให้เห็นว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับที่ 2 ของโลก เริ่มอ่อนแรง แม้ว่าภาคการบริโภคในประเทศจีนขยับขึ้นเล็กน้อย แต่ตัวเลขโดยรวมไม่สามารถชดเชยกับการชะลอตัวของภาคการลงทุนจากเอกชนและการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม

           นอกจากนี้ วิกฤตด้านอสังหาริมทรัพย์ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คือปัจจัยหนึ่งที่เหนี่ยวรั้งภาคการบริโภคของจีนไม่ให้เติบโตมากขึ้น จากข้อมูลเศรษฐกิจตามที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน(NBS)ประกาศในวันนี้(15 ส.ค.)ชี้ให้เห็นว่า ในช่วงเริ่มต้นของ 6 เดือนหลังของปีนี้ ทิศทางการฟื้นตัวเริ่มไม่สม่ำเสมอสำหรับเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีมูลค่า 19 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า คณะผู้กำหนดนโยบายของประเทศจีนจะจัดทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนให้ฟื้นตัวโดยต่อเนื่องในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า โดยเน้นการกระตุ้นการบริโภคของภาคครัวเรือน หลังจากตัวเลขการส่งออกอ่อนแอ,ราคาบ้านใหม่ร่วงหนักสุดในรอบ 9 ปี และตัวเลขปล่อยกู้ของธนาคารล้วนอ่อนแอ

           ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนประกาศในเดือนที่แล้วว่า รัฐบาลจะจัดทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยให้ความสำคัญกับการกระตุ้นการบริโภคมากกว่าโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและภาคอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตตามเป้าหมายร้อยละ 5 ในปีนี้

#เศรษฐกิจจีน