กองทัพเมียนมาส่งโดรนโจมตีชุมชนโรฮิงญารอบใหม่ มีผู้เสียชีวิต 200 รายในรัฐยะไข่

          ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นายเนย์ ซาน ลวิน นักเคลื่อนไหวชาวมุสลิมโรฮิงญา และผู้ก่อตั้งองค์กรแนวร่วมปลดปล่อยชาวโรฮิงญา(Free Rohingya Coalition)และกองทัพอาระกัน (AA) กลุ่มติดอาวุธของชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของเมียนมา แสดงความกังวลกองทัพเมียนมาส่งกำลังทหารเข้าทำการปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญา กลุ่มคนไร้รัฐไร้สัญชาติในรัฐยะไข่ พร้อมส่งโดรนโจมตีชุมชนโรฮิงญาในเทศบาลเมืองมองดอ(Maungdaw) ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ตั้งแต่วันจันทร์ที่แล้ว(5 ส.ค.) และยังคงมีการสู้รบในพื้นที่อย่างต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ เบื้องต้น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 200 ราย รวมถึงหญิงและเด็ก  ขณะเดียวกัน ชาวโรฮิงญาอีก 4,000-5,000 คนหลบหนีออกจากรัฐยะไข่ข้ามแม่น้ำนาฟ(Naf River)ไปยังฝั่งของบังกลาเทศ เพื่อนบ้าน

         หากตัวเลขผู้เสียชีวิตตามรายงานเรื่องนี้เป็นจริง จะเป็นหนึ่งในการปราบปรามชุมชนโรฮิงญาที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในสงครามกลางเมืองของเมียนมาซึ่งยืดเยื้อเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว หลังกองทัพเมียนมาทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2564 การที่รัฐบาลเมียนมาสั่งปิดอินเตอร์เน็ตและสัญญาณโทรคมนาคมในบางท้องที่ของรัฐยะไข่ ทำให้ยากสำหรับสื่อ นักเคลื่อนไหวและองค์กรเฝ้าระวังระหว่างประเทศจะตรวจสอบอย่างชัดเจนว่าเกิดเหตุรุนแรงรอบใหม่ขึ้นมาอย่างไรในรัฐยะไข่

          ด้านองค์กรฮิวแมนไรตส์วอตช์ หน่วยงานเฝ้าระวังสิทธิมนุษยชนของสหรัฐฯระบุในรายงานใหม่ซึ่งเผยแพร่ในวันนี้(13 ส.ค.)ว่าทั้งกองทัพเมียนมาและกองกำลัง AA สังหาร และเผาบ้านเรือนของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นชาวโรฮิงญาและชาวบ้านกลุ่มอื่นๆในรัฐยะไข่ในช่วง 2-3 เดือนก่อนหน้านี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการของกองทัพเมียนมาในการบังคับชายหนุ่มและเด็กชายชาวโรฮิงญาเป็นทหารในกองทัพเมียนมา ทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างชุมชนโรฮิงญากับชุมชนชาวพุทธในรัฐยะไข่

          ก่อนหน้านี้ เมื่อปี2559-2560 กองทัพเมียนมาได้ปราบปรามชาวโรฮิงญา เข้าข่ายความผิดฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา ซึ่งอยู่ระหว่างในการพิจารณาในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในนครเฮก เนเธอร์แลนด์ โดยมีแกมเบีย ประเทศในแอฟริกาตะวันตกในนามรัฐสมาชิกองค์การความร่วมมืออิสลามเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง

#เมียนมา

#ชาวโรฮิงญา

#๋ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์