'ทรัมป์'ไลฟ์สดทาง X วิจารณ์ ปธน.ไบเดน ล้มเหลวแก้เงินเฟ้อ-ชายแดน จะกลับไปหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์

          อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันสหรัฐฯ และนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัทสเปซเอ็กซ์ ผู้ประกอบธุรกิจเทคโนโลยีด้านอวกาศ และเจ้าของบริษัท X แพลตฟอร์มสื่อออนไลน์รายใหญ่ของสหรัฐฯได้เปิดไลฟ์สดทาง X พูดคุยเรื่องการเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 ใช้เวลาพูดคุยกว่า 2 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 20.42น.วันจันทร์(12 ส.ค.67)ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 08.42น.วันนี้(13 ส.ค.67) ตามเวลาของประเทศไทย

          บางช่วงของการพูดคุย นายทรัมป์ กล่าวว่า เรื่องเงินเฟ้อและเรื่องความมั่นคงชายแดนเป็นหนึ่งในประเด็นที่ชาวอเมริกันรู้สึกกังวลมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักจากเงินเฟ้อที่สูงมาก ทำให้ชาวอเมริกันจำนวนมากไม่มีเงินซื้อของจากร้านสะดวกซื้อ พร้อมวิจารณ์รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเงินเฟ้อ ทำให้ค่าครองชีพแพง สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวอเมริกันจำนวนมาก อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯในปี 2565 อยู่ที่ร้อยละ 9.1 เป็นสถิติเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบกว่า 40 ปี แต่นายทรัมป์ กล่าวว่า เขาคิดว่าเป็นตัวเลขเงินเฟ้อที่แย่ที่สุดในรอบ 100 ปี ไม่ใช่ในรอบ 48 ปีอย่างที่หลายคนเข้าใจ

          ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า เป็นเรื่องยากที่เราจะทราบสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้สินค้าต่างๆมีราคาแพงขึ้น แต่นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนส่วนใหญ่ชี้ถึงข้อจำกัดทางด้านซัพพลายเชนในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และวิกฤตพลังงาน เช่น ค่าไฟฟ้าและค่าแก๊สมีราคาแพงขึ้น และสงครามยูเครนเมื่อปี 2565 คือ สาเหตุหนึ่งทำให้ผู้ประกอบการของสหรัฐฯปรับราคาสินค้าสูงขึ้น ส่งผลให้เงินเฟ้อขยับขึ้นเช่นกัน

          นอกจากนี้ นายทรัมป์และนายมัสก์พูดเรื่องปัญหาอื่นๆเช่น ปัญหาคนลักลอบเข้าเมือง นายมัสก์อยากให้รัฐบาลสหรัฐฯจำกัดจำนวนคนเข้าเมือง พร้อมพูดถึงประสบการณ์ที่เคยลงพื้นที่เยือนภาคใต้ของสหรัฐฯ และเห็นว่า คนลักลอบเข้าเมืองส่วนใหญ่ที่เขาเห็น ดูท่าทางไม่เป็นมิตรเท่าที่ควร ขณะที่ นายทรัมป์ เสริมในทำนองเดียวกับที่เคยพูดมาหลายเวทีแล้วว่า ประเทศอื่นๆส่งคนที่มีประวัติอาชญากรรม และมีประวัติการรักษาสุขภาพจิตให้เดินทางเข้ามาที่สหรัฐฯ

          นายทรัมป์ วิจารณ์นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีและคู่แข่งผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ที่รับผิดชอบเรื่องนโยบายความมั่นคงชายแดนของสหรัฐฯว่า บริหารประเทศล้มเหลวเช่นเดียวกับนายไบเดน พร้อมประกาศว่าถ้าเขาชนะการเลือกตั้ง 5 พ.ย.นี้ รัฐบาลของเขาจะเนรเทศคนลักลอบเข้าเมืองกลับประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ

          นอกจากนี้ นายมัสก์ขอให้นายทรัมป์เล่าถึงความรู้สึกจากประสบการณ์เฉียดตายจากเหตุลอบยิง ขณะปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันที่ 13 ก.ค.67 ซึ่งนายทรัมป์เปิดใจว่า ไม่ใช่เรื่องดีเลย ซึ่งบางคน รวมถึงนายมัสก์ ที่เห็นคลิปวิดีโอวันเกิดเหตุแล้ว อาจจะคิดไปในทำนองว่าจัดฉากให้ดูสมจริงคล้ายละครทีวี ไม่ใช่เรื่องจริง แต่เขาไม่เคยคิดอย่างนั้น ซึ่งเมื่อกระสุนเฉี่ยวถูกหูขวา เขารู้ทันทีว่าถูกลอบยิง

          นายมัสก์ ยอมรับว่า เหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาประกาศสนับสนุนการลงเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของนายทรัมป์ มาจากเหตุลอบยิงนายทรัมป์ ขณะปราศรัยหาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนีย  พร้อมชื่นชมวินาทีที่นายทรัมป์ชูกำปั้นขึ้นฟ้าหลังถูกยิงว่า เป็นโมเมนต์ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนจำนวนมาก

          นายทรัมป์ กล่าวเสริมว่า คำถามแรกที่เขาถามกับทีมรณรงค์หาเสียงหลังจากหมอบลงข้างแท่นปราศรัยหาเสียงคือ มีผู้เสียชีวิตกี่คน เพราะมีผู้ฟังการปราศรัยจำนวนมาก หลายพันคนและเขาทราบว่ามีคนอื่นๆถูกลูกหลงจากเหตุลอบยิง พร้อมทั้งให้คำมั่นจะกลับไปปราศรัยหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ในเดือนต.ค.67 

#ทรัมป์

#มัสก์ไลฟ์สด

#การเมืองสหรัฐ