กระทรวงพาณิชย์จีนยื่นเรื่องร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก หรือ WTO กรณีที่ในเดือนกรกฎาคม (2567) สหภาพยุโรป หรือ EU กำหนดภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ที่ผลิตในประเทศจีนในอัตราสูงถึงร้อยละ 17.4 ถึงร้อยละ 38 จากอัตราภาษีร้อยละ 10 ที่มีการบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยอ้างว่าเป็นเพราะจีนให้เงินอุดหนุนผู้ผลิตรถยนต์อย่างไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในสหภาพยุโรป ทางการจีนเห็นว่า เป็นการอ้างอิงโดยไม่มีหลักฐานและไม่อยู่บนพื้นฐานทางกฎหมาย ละเมิดกฎของ WTO อย่างร้ายแรง บั่นทอนความร่วมมือระดับโลกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
กระทรวงพาณิชย์ของจีน ชี้แจงว่า การใช้กลไกการระงับข้อพิพาทของ WTO ในครั้งนี้ก็เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์การพัฒนาของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและความร่วมมือในการเปลี่ยนแปลงสีเขียวระดับโลก เรียกร้องให้สหภาพยุโรปแก้ไขการปฏิบัติที่ผิดพลาดในทันที ร่วมกันรักษาเสถียรภาพความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหภาพยุโรป ตลอดจนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและห่วงโซ่อุปทาน
การขึ้นอัตราภาษีศุลกากรของสหภาพยุโรป เกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยผลการสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่า การที่ทางการจีนให้เงินอุดหนุน ช่วยให้ผู้ประกอบการจีนสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ในราคาที่ถูกกว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในสหภาพยุโรป โดยมีข้อสรุปว่า การสนับสนุนจากทางการจีน คือการอุดหนุนที่ไม่เป็นธรรม ก่อให้เกิดภัยคุกคามทางเศรษฐกิจต่อผู้ผลิตรถยนต์ในสหภาพยุโรป และจะมีการตัดสินใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับภาษีศุลกากรภายในเดือนพฤศจิกายน
แต่กระทรวงพาณิชย์ของจีนเตือนว่ามาตรการของสหภาพยุโรปอาจก่อให้เกิดสงครามการค้า ทั้งเป็นการเลือกปฏิบัติ จึงมีการตอบโต้ด้วยการเปิดการสอบสวนกรณีการทุ่มตลาดผลิตภัณฑ์เนื้อหมูบางประเภทที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป
สหภาพยุโรปเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีน มูลค่าการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากระดับ 1,600 ล้านดอลลาร์ในปี 2563 เป็น 11,500 ล้านดอลลาร์ในปี 2566
…
#จีน
#สหภาพยุโรป
#องค์การการค้าโลก