นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมนายทิม วอลซ์ คู่หู ปราศรัยหาเสียงที่รัฐแอริโซนา เสนอแนวคิดการแก้ไขปัญหาผู้อพยพในรัฐชายแดนเป็นครั้งแรก โดยจะผลักดันร่างกฎหมายความมั่นคงชายแดน ซึ่งกลุ่มวุฒิสมาชิกจากทั้งสองพรรคมีการเจรจากันเมื่อต้นปีนี้ แต่ฝ่ายรีพับลิกันคัดค้าน และเป็นอีกครั้งที่นางแฮร์ริสได้กล่าวถึงเรื่องเสรีภาพ สิทธิในการลงคะแนนเสียง ความปลอดภัยจากอาวุธปืน สิทธิของกลุ่ม LBGT และการเข้าถึงการทำแท้ง
นอกจากนี้ยังเป็นอีกครั้งที่นางแฮร์ริส ต้องตอบคำถามผู้ประท้วงสถานการณ์ความรุนแรงในฉนวนกาซา ซึ่งเธอกล่าวว่า ถึงเวลาที่จะต้องทำข้อตกลงหยุดยิงเพื่อยุติการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับฮามาส เธอและนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการทำงานทุกวันเพื่อให้ข้อตกลงหยุดยิงสำเร็จและนำตัวประกันกลับบ้าน ทั้งกล่าวด้วยว่า เธอเคารพเสียงของผู้ประท้วงแต่เธอและนายวอลซ์มาที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการเลือกตั้งในปีนี้
แอริโซนาเป็นรัฐของฝ่ายรีพับลิกันมาโดยตลอด จนถึงในปี 2559 ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกันชนะการเลือกตั้งที่รัฐนี้ แต่ต่อมาเขามีข้อขัดแย้งกับนายจอห์น แมคเคน อดีตวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน ทำให้สมาชิกพรรครีพับลิกันที่มีแนวคิดสายกลางหันไปสนับสนุนเดโมแครต และทำให้นายโจ ไบเดน จากเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในปี 2563 ด้วยคะแนนไม่ถึง 11,000 คะแนน
และนักวิเคราะห์คาดว่า ผลการเลือกตั้งในปีนี้ก็จะออกมาคล้ายกัน
ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปปราศรัยหาเสียงที่มอนทานา โดยมีปัญหาเกิดขึ้นเล็กน้อยเนื่องจากเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวมีปัญหาเครื่องยนต์ ทำให้ต้องเปลี่ยนเส้นทางจากเมืองโบซแมนไปยังสนามบินเมืองบิลลิงส์และลงจอดได้อย่างปลอดภัย
รัฐมอนทานาเป็นของรีพับลิกันมาอย่างยาวนาน รวมถึงในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้วนายทรัมป์ชนะไปด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 16 และเขามีความมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะชนะอีกครั้งในการเลือกตั้งครั้งนี้ เขากล่าวว่า การมาที่มอนทานาคือการสนับสนุนให้ตัวแทนพรรครีพับลิกันชนะเลือกตั้งในระดับวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหลังจากนี้เขาจะจัดการระดมทุนที่ไวโอมิงและโคโลราโดต่อไป
…
#เดโมแครต
#รีพับลิกัน
#ประธานาธิบดีสหรัฐ
#โดนัลด์ทรัมป์