ปธน.สหรัฐฯประชุมคณะทำงานฝ่ายความมั่นคง หวั่นอิหร่านตอบโต้อิสราเอล

          บรรษัทกระจายเสียงอังกฤษ(BBC)และเว็บไซต์ข่าวเอ็กซิออส(Axios)ของสหรัฐฯรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯประชุมกับคณะทำงานระดับสูงด้านความมั่นคงของสหรัฐฯเมื่อคืนวันจันทร์ที่ 5 ส.ค.ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อประเมินสถานการณ์ในตะวันออกกลาง เพื่อรับมือสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ที่ตึงเครียดมากขึ้น  หลังเกิดเหตุ สังหารนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์และนายฟูอัด ชุคร์ ผู้บัญชาการระดับอาวุโสของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอน ทำให้อิหร่านประกาศจะตอบโต้อิสราเอลอย่างรุนแรง แม้ว่าอิสราเอลยังไม่ยอมรับการสังหารนายฮานิเยห์

         เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของสหรัฐฯบรรยายสรุปต่อที่ประชุมว่า สหรัฐฯยังไม่มีความชัดเจนเรื่องระยะเวลาและลักษณะการตอบโต้จากอิหร่าน แม้ว่าก่อนหน้านี้ นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯต่อสายพูดคุยทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีต่างประเทศจากกลุ่ม G7 เมื่อวันอาทิตย์(4 ส.ค.) คาดว่าอิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์จะตอบโต้อิสราเอลใน 24-48 ชม.ข้างหน้า

        นายไบเดน เปิดเผยหลังการประชุมว่า เขาทราบรายงานจากคณะทำงานฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐฯเรื่องการตอบโต้จากอิหร่านและพันธมิตร การใช้แนวทางการทูตเพื่อลดความตึงเครียดในภูมิภาคและการเตรียมความพร้อมสำหรับช่วยปกป้องอิสราเอลในกรณีอิหร่านเปิดฉากโจมตีอิสราเอล และมาตรการตอบโต้ด้วยวิธีการ และสถานที่ตามที่สหรัฐฯตัดสินใจเลือกในกรณีกองกำลังสหรัฐฯประจำตะวันออกกลางถูกโจมตีอิหร่าน หรือพันธมิตร

         ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ นายไบเดน ได้ต่อสายพูดคุยทางโทรศัพท์กับสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดนเมื่อวานนี้(5 ส.ค.) เพื่อหารือแนวทางการคลี่คลายความตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกัน

         นายบลิงเกนเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ประสานกับบรรดาพันธมิตรสหรัฐฯในตะวันออกกลาง ช่วยกดดันอิหร่านไม่ให้ทำให้สถานการณ์ด้านความมั่นคงในตะวันออกกลางแย่มากกว่านี้ นอกจากนี้ หลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร แนะนำพลเมืองให้เดินทางออกจากเลบานอน หวั่นเกรงว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของอิหร่าน อาจจะเป็นกำลังหลักในการตอบโต้อิสราเอล

         ด้านจอร์แดนขอให้เครื่องบินโดยสารทุกลำที่วางแผนจะลงจอดในจอร์แดนสำรองน้ำมันเพิ่มเติมอีก 45 นาที นับเป็นหนึ่งในมาตรการเตรียมพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน หากจอร์แดนมีคำสั่งปิดน่านฟ้าเนื่องจากการสู้รบบานปลายทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกกลาง

         สายการบินลุฟท์ฮันซ่าของเยอรมนีระงับเที่ยวบินทั้งหมดไปยังกรุงเทลอาวีฟ อิสราเอลและกรุงเบรุต เลบานอน ตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้วไปจนถึงวันที่ 12 ส.ค.นี้ ขณะที่สายการบินเดลตาแอร์ไลน์ ของสหรัฐฯระงับเที่ยวบินไปยังกรุงเทลอาวีฟจนถึงวันที่ 31 ส.ค.นี้

#สหรัฐ

#สถานการณ์ตะวันออกกลาง