สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คณะเสนาธิการของกองทัพยูเครนอ้างว่า พวกเขาสามารถโจมตีเรือดำน้ำ รอสตอฟ-ออน-ดอน ลำหนึ่งของรัสเซียจมทะเล ขณะจอดอยู่ท่าเรือเมืองเซวาสโตโพล(Sevastopol)ในอ่าวไครเมียเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(2 ส.ค.) เพิ่มเติมว่า การโจมตีเรือดำน้ำรัสเซียในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าไม่มีสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับเรือรบของรัสเซียที่แล่นอยู่ในทะเลดำในส่วนที่เป็นอาณาเขตของยูเครน
ด้านกระทรวงกลาโหมของยูเครนโพสต์ข้อความทางสื่อออนไลน์ ชื่นชมการโจมตีครั้งนี้ ระบุว่า เรือดำน้ำรัสเซียจมลงสู่ท้องทะเลทันทีหลังถูกโจมตี แต่ไม่ได้แสดงหลักฐานเพิ่มเติม ด้านกระทรวงกลาโหมของรัสเซียยังไม่แสดงความเห็นในเรื่องนี้ สำหรับเรือดำน้ำรอสตอฟ-ออน-ดอนเข้าประจำการในปี 2557 ยาว 73.8 เมตร มีลูกเรือ 52 คน ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลไฟฟ้าและสามารถติดตั้งขีปนาวุธร่อนคาลิเบอร์(Kalibr)เพื่อโจมตียูเครนด้วย
ขณะที่นักวิเคราะห์ ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าคำอ้างของยูเครนเป็นเรื่องจริง นับเป็นการเพลี่ยงพล้ำครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งของรัสเซียในการสู้รบกับยูเครนในสนามรบอ่าวไครเมีย ซึ่งถูกรัสเซียยึดครองมาตั้งแต่ปี 2557
นอกจากนี้ การโจมตีเรือรบและเรือดำน้ำของรัสเซียที่ติดตั้งขีปนาวุธร่อน คาลิเบอร์ เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางทหารที่สำคัญอย่างหนึ่งของยูเครน เนื่องจากที่ผ่านมา รัสเซียใช้ขีปนาวุธคาลิเบอร์ในการโจมตีระบบสาธารณูปโภคสำคัญๆเช่น โรงไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าดับในหลายท้องที่ทั่วประเทศยูเครน
ที่ผ่านมา เรือรบของรัสเซียมากกว่า 20 ลำ หรือคิดเป็นหนึ่งในสามของเรือรบทั้งหมดประจำทะเลดำเสียหายจากการโจมตีของยูเครนนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 รวมถึงเหตุโจมตีเรือมอสควาที่ติดตั้งขีปนาวุธครูซนำวิถีในเดือนเม.ย.2565
#สงครามยูเครน
#โจมตีเรือรัสเซีย
#อ่าวไครเมีย