องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (United Nations Children's Fund : UNICEF) หรือ ยูนิเซฟ รายงานว่า มีเด็กเสียชีวิต 32 รายระหว่างที่มีการประท้วงในบังกลาเทศในเดือนที่แล้ว (ก.ค.) ส่วนใหญ่มีอายุมากกว่า 13 ปี แต่มี 1 รายมีอายุต่ำกว่า 5 ขวบ และอีก 1 รายเป็นเด็กอายุระหว่าง 6 ถึง 12 ปี พวกเขาไม่ได้เข้าร่วมการประท้วง แต่เพราะผู้พักอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายซานเจย์ วิเจสเกรา ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียใต้ของยูนิเซฟ กล่าวว่า เขาได้รับทราบเรื่องรายงานที่เด็กๆ ถูกควบคุมตัวและเสียชีวิตระหว่างที่เขาเดินทางไปบังกลาเทศในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการสูญเสียที่เลวร้าย ย้ำว่า เด็กๆ ต้องได้รับการปกป้องตลอดเวลา และนั่นคือความรับผิดชอบของทุกคน
อย่างไรก็ตาม นายโมฮัมหมัด อาลี อาราฟัต รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศของบังกลาเทศ กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตตามที่ยูนิเซฟ นำมารายงาน แต่ยืนยันว่า จะมีการสืบสวนและนำตัวผู้กระทำความผิดไปดำเนินคดี
สื่อในบังกลาเทศ รายงานว่า การประท้วงโควตาการจ้างงานในระบบราชการที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 200 คน และถูกจับกุมอีกเกือบ 10,000 คน แม้ว่าในขณะนี้รัฐบาลจะปรับลดจำนวนบุคลากรในระบบโควตาลงตามคำตัดสินของศาลฎีกา แต่กลุ่มผู้ประท้วงก็ยังไม่พอใจ และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือผู้ถูกคุมขัง
กองกำลังความมั่นคงถูกกล่าวหาว่าใช้กำลังเกินกว่าเหตุเพื่อระงับการประท้วงในช่วงแรก ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากจากกระสุนปืน แต่รัฐบาลโต้แย้งว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายนาย โดยกล่าวโทษฝ่ายผู้ประท้วงว่าเป็นต้นเหตุของความไม่สงบ นอกจากนี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมายังมีการขึ้นบัญชีพรรคการเมืองและกลุ่มนักศึกษาฐานสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรงทำลายทรัพย์สินของรัฐและเอกชน ทำให้ผู้นำพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ประณามว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นอกกระบวนการยุติธรรม และขัดรัฐธรรมนูญ
...
#บังกลาเทศ
#ประท้วงระบบโควตา