ความวุ่นวายหลังทราบผลการเลือกตั้งในเวเนซุเอลาเกิดขึ้นทั้งในประเทศและนอกประเทศ หลังสภาเลือกตั้งแห่งชาติ(CNE)ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร วัย 61 ปี หัวหน้าพรรคสังคมนิยม PSUV ชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 3 บริหารประเทศต่อไปอีก 6 ปี ระหว่าง 2568-2574 แต่พรรคฝ่ายค้าน กล่าวหา นายมาดูโร โกงเลือกตั้ง
วันนี้ (31 ก.ค.67) องค์การรัฐอเมริกันยังจัดการประชุมวิสามัญเพื่อหารือเกี่ยวกับการเลือกตั้งด้วย
ทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีลุยซ์ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล และประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคาร(30 ก.ค.67) เห็นตรงกันว่า รัฐบาลเวเนซุเอลาจะต้องเผยแพร่ผลคะแนนการเลือกตั้ง เพื่อความโปร่งใส และยุติวิกฤตที่เกิดขึ้น ขณะที่ ผู้นำฝ่ายค้านและผู้สังเกตการณ์ชาวต่างชาติเรียกร้องให้เปิดเผยผลคะแนนเช่นกัน
รายงานข่าวจากชาวบราซิล ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ขอให้บราซิลประเมินผลการเลือกตั้ง บราซิล ส่งเจ้าหน้าที่ไปติดตามการเลือกตั้ง นายลูลา ได้บรรยายสรุปสถานการณ์ให้นายไบเดน ได้รับทราบ
การประท้วงไม่เห็นด้วยกับผลการเลือกตั้งทำให้เพื่อนบ้าน 7 ประเทศในลาตินอเมริกา คือ อาร์เจนตินา ชิลี คอสตาริกา ปานามา เปรู โดมินิกันและอุรุกวัย ได้เรียกเอกอัครราชทูตประจำกรุงการากัส กลับประเทศ
ล่าสุด รัฐบาลเปรู ออกคำสั่งให้นักการทูตเวเนซุเอลาในประเทศ ออกไปภายใน 72 ชั่วโมง เปรู เป็นประเทศที่ผู้อพยพชาวเวเนซุเอลาส่วนมากเดินทางไปอยู่ สำนักข่าวต่างประเทศ ถาม ฮาเวียร์ กอนซาเลซ-โอเลาเชอา รัฐมนตรีต่างประเทศเปรูว่าจะตัดความสัมพันธ์กับเวเนซุเอลาหรือไม่ รัฐมนตรีต่างประเทศเปรู กล่าวว่า ไม่ใช่ความต้องการของเปรู แต่ก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลหลายแห่งในภูมิภาค กำลังประสานงานกันเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับผลการเลือกตั้ง
#ประท้วงผลเลือกตั้ง
#เวเนซุเอลา
#สหรัฐ
#บราซิล
Cr.The Straits Times