การประท้วงไม่เห็นด้วยกับผลการเลือกตั้งในเวเนซุเอลา เมื่อวันอาทิตย์(28 ก.ค.67) ทำให้เพื่อนบ้าน 7 ประเทศในลาตินอเมริกา คือ อาร์เจนตินา ชิลี คอสตาริกา ปานามา เปรู โดมินิกันและอุรุกวัยได้เรียกเอกอัครราชทูตประจำกรุงการากัสกลับประเทศ เพื่อแสดงถึงการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งของเวเนซุเอลา ซึ่งนายยวาน กิล รัฐมนตรีต่างประเทศของเวเนซุเอลา วิจารณ์การกระทำของเพื่อนบ้านดังกล่าวว่า พยายามเข้าแทรกแซงกิจการภายในของประเทศเวเนซุเอลา นอกจากนี้ รัฐบาลเวเนซุเอลา ตอบโต้ด้วยการประกาศระงับเที่ยวบินของปานามาและโดมิกันชั่วคราวทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เริ่มตั้งแต่เวลา 20.00น.วันพรุ่งนี้(31 ก.ค.67)
นอกจากนี้ ยังมีเหตุวุ่นวายในประเทศ บีบีซี รายงานว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงเวเนซุเอลา ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เพื่อสลายการประท้วงของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคฝ่ายค้านจำนวนหลายพันคน ขณะเดินขบวนมุ่งหน้าไปที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงการากัส เมื่อค่ำวานนี้(29 ก.ค.67) เพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้ง หลังสภาเลือกตั้งแห่งชาติ(CNE)ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวานว่า ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร วัย 61 ปี หัวหน้าพรรคสังคมนิยม PSUV ชนะการเลือกตั้งสมัยที่ 3 บริหารประเทศต่อไปอีก 6 ปี ระหว่าง 2568-2574
แต่พรรคฝ่ายค้าน กล่าวหา นายมาดูโร โกงเลือกตั้ง พร้อมยืนยันว่า นายเอ็ดมุนโด กอนซาเลซ อดีตนักการทูตวัย 74 ปี ผู้นำพรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน ยูนิเทอรี แพล็ตฟอร์ม(Unitary Platform) ชนะด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 73.2 ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด สอดคล้องกับผลโพลก่อนเลือกตั้งที่ชี้ว่า พรรคฝ่ายค้านมีคะแนนนิยมนำห่างพรรครัฐบาลอย่างชัดเจน
คลิปข่าวโทรทัศน์ท้องถิ่น แสดงให้เห็นว่าผู้ประท้วงได้เผายางรถยนต์บนทางหลวงหลายแห่งและมีประชาชนจำนวนมากออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในกรุงการากัส ขณะที่ ตำรวจ ยิงแก๊สน้ำตาสลายการประท้วง ในบางจุด ผู้ประท้วงได้ฉีกรูปภาพของนายมาดูโรและเผาไฟ พร้อมทั้งเผายางรถยนต์และขยะในจุดต่างๆด้วย
ด้านชาติตะวันตก เช่น สหรัฐฯและหลายประเทศในแถบลาตินอเมริกา และองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ขอให้ทางการเวเนซุเอลา เผยแพร่ผลการลงคะแนนจากหน่วยเลือกตั้ง 30,000 แห่งทั่วประเทศให้ประชาชนในเวเนซุเอลาทราบ เพื่อความโปร่งใสในการจัดการเลือกตั้ง
#เวเนซุเอลา
#ประท้วงผลเลือกตั้ง