ผู้นำยูเครนเปิดใจเรื่องแนวทางยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน

          ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์  เซเลนสกี ของยูเครนให้สัมภาษณ์ทีมข่าวของ สำนักข่าวNHK ของญี่ปุ่น เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยการสัมภาษณ์ครั้งนี้มีขึ้นในกรุงเคียฟเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (26 ก.ค.)โดยผู้นำยูเครนพูดเรื่องโอกาสในการยุติสงครามกับรัสเซีย ความสัมพันธ์กับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ พร้อมพูดเรื่องความหวังจะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากญี่ปุ่น

         นายเซเลนสกีพูดถึงโอกาสเพื่อยุติปัญหาขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนว่า ความอดทน การสนับสนุน และ การกดดันทางการทูต เป็น 3 ปัจจัยที่จะยุติสงคราม  ขณะเดียวกัน ถ้าสหรัฐกับกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ยังผสานความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียว จะยิ่งเพิ่มการกดดันให้รัสเซียเห็นว่าไม่มีโอกาสที่รัสเซียจะชนะสงครามกับยูเครน

        จนถึงบัดนี้ ผ่านมา 2 ปี 5 เดือนนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงสู้รบกันอย่างดุเดือด เช่นเมื่อต้นเดือนนี้ รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 ราย ขณะเดียวกัน กองทัพรัสเซียสามารถยึดดินแดนคืนมาจากยูเครนในพื้นที่ตะวันออกและภาคใต้ของประเทศ หลังยูเครนปฏิบัติการเชิงรุกกระทั่งบุกยึดดินแดนนั้นจากรัสเซียในปีที่แล้ว

         ผู้นำยูเครนเน้นย้ำว่า เขาไม่สามารถตอบรับกระแสเรียกร้องให้หยุดยิงได้ ตราบใดที่รัสเซียยังคงยึดครองดินแดนของยูเครน เขาจะเริ่มหารือในรายละเอียดต่างๆกับบรรดาชาติพันธมิตรในเรื่องบูรณภาพแห่งดินแดนและประเด็นต่างๆรวมถึงการจัดทำปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน

        สำหรับเรื่องความสัมพันธ์กับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งมีรายงานว่านายทรัมป์จะไม่ให้การสนับสนุนด้านอาวุธแก่ยูเครนอีกต่อไป ถ้าหากเขาชนะการเลือกตั้ง 5 พ.ย.นี้ ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า ผลการเลือกตั้งของสหรัฐฯจะมีผลอย่างยิ่งต่อทิศทางของสงครามในยูเครน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยูเครนได้ติดต่อกับทีมรณรงค์หาเสียงของนายทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันและนางกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตเมื่อเร็วๆนี้

        นายเซเลนสกี เปิดเผยว่า ระหว่าการพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายทรัมป์เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้เชิญนายทรัมป์มาเยือนยูเครน  ถ้าต้องการจะทราบข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับยูเครน จะควรจะไปเยือนยูเครนด้วยตนเอง หรือสอบถามโดยตรงกันได้

         สำหรับเรื่องความสัมพันธ์กับญี่ปุ่น นายเซเลนสกีย้ำถึงความสำคัญในการสนับสนุนว่า ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในกลุ่ม 7 ประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก(กลุ่ม G7) ซึ่งให้การสนับสนุนแก่ยูเครนในด้านเศรษฐกิจ,ด้านมนุษยธรรมและความช่วยเหลือด้านเทคนิคอื่น พร้อมชื่นชมสำหรับการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้ยูเครนอย่างรวดเร็ว อีกทั้งเป็นประเทศแรกๆที่ไม่สังกัดในองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต)ที่ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงกับยูเครน

#ยูเครน

#แผนสันติภาพ