สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายสก็อตต์ วีส (Scott Weese)เจ้าหน้าที่สำนักงานดับเพลิง(Call Fire)ของรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เปิดเผยว่า เกิดไฟไหม้ป่าในบริเวณที่เรียกว่า พาร์กไฟร์ (Park Fire) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองชิคาโก รัฐแคลิฟอร์เนียตั้งแต่วันพุธที่แล้ว(24 ก.ค.)อาคารบ้านเรือนถูกเผาเสียหายแล้ว 134 หลัง และบ้านเรือนอีก 4,200 หลังเสี่ยงถูกไฟป่าลุกไหม้เช่นกัน มีผืนป่าถูกเผาเสียหายกว่า 880,440 ไร่ หรือเฉลี่ยมีผืนป่าถูกเผาเสียหาย 12,650 ไร่ต่อชั่วโมง
จนถึงวันนี้(28 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิง 2,500 คนที่ปฏิบัติงานในจุดเกิดเหตุ ยังไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นที่ลาดชันและกระแสลมค่อนข้างแรง ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหวังว่า จะเริ่มควบคุมไฟป่าได้ในวันนี้(28 ก.ค.)หลังประเมินว่าความเร็วลมจะลดลงและอุณหภูมิจะลด 9.44 องศาเซลเซียส แต่อุณหภูมิยังคงอยู่ที่ 32 องศาเซลเซียส
ก่อนหน้านี้ นายกาวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศภาวะฉุกเฉินเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(26 ก.ค.)ในเขตเทศมณฑลบัตต์ และเตฮามา(Tehama)เนื่องจากสถานการณ์ไฟป่าจากพาร์กไฟร์ สั่งระดมเจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมส่งเฮลิคอปเตอร์ 16 ลำ ทำการดับไฟป่าทางอากาศ
ส่วนการสอบสวน ตำรวจได้จับกุมนายรอนนี ดีน สเตาท์(Ronnie Dean Stout) วัย 42 ปี เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว(25 ก.ค.)เพื่อสอบสวนฐานต้องสงสัยเป็นคนเริ่มต้นทำให้ไฟไหม้ป่า ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจทราบว่านายสเตาท์ผลักรถยนต์คันหนึ่งที่ถูกไฟไหม้ลงลำธารแห่งหนึ่งในเทศมณฑลบัตต์ (Butte County) ซึ่งอยู่ใกล้ผืนป่า กระทั่งเกิดไฟไหม้ป่าเมื่อวันพุธที่แล้ว นับเป็นเหตุไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนียในปีนี้
#สหรัฐ
#ไฟไหม้ป่า