หลังจากพายุไต้ฝุ่นแคมีขึ้นฝั่งที่เทศมณฑลอี๋หลาน ทางภาคตะวันออกของไต้หวันเมื่อช่วงเที่ยงคืนของวันพุธต่อเนื่องกับเช้ามืดของวันนี้(25 ก.ค.)ด้วยความเร็วลมสูงสุด 227 กิโลเมตร/ชั่วโมง มีผู้เสียชีวิต 3 รายในไต้หวัน และมีผู้เสียชีวิต 22 รายในฟิลิปปินส์ ซึ่งสำนักพยากรณ์อากาศกลางของไต้หวัน คาดว่า พายุจะขึ้นฝั่งที่มณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีนในคืนนี้(25 ก.ค.)
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเรื่องผลกระทบจากพายุในฟิลิปปินส์และไต้หวัน พลเรือตรีอาร์มันด์ บาลิโล โฆษกหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์และนายเฮอร์นันโด บาโคซา ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนา ฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ทางการฟิลิปปินส์อยู่ระหว่างเร่งจำกัดบริเวณคราบน้ำมันรั่วไหล หลังพายุไต้ฝุ่นแคมีซัดเรือ เอ็มที เทอร์รา โนวา (MT Terra Nova) ที่บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับภาคอุตสาหกรรมจำนวน 1.5 ล้านลิตร ล่มกลางทะเลในบริเวณอ่าวกรุงมะนิลา ขณะมุ่งหน้าไปยังเมือง อิโลอิโล(Iloilo) โดยหน่วยยามฝั่งของฟิลิปปินส์พบศพของลูกเรือ 1 ราย และทีมกู้ภัยสามารถช่วยลูกเรือได้ 6 คน
ขณะเดียวกัน มีคราบน้ำมันรั่วไหลเป็นระยะทางเกือบ 4 กิโลเมตร(2.5 ไมล์) อาจจะเป็นเหตุน้ำมันรั่วไหลครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์ ถ้าไม่เร่งทำการจำกัด พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมจากคราบน้ำมันโดยใช้ทุ่นลอยน้ำล้อมน้ำมันไว้ เป็นกำแพงกักน้ำมันไม่ให้ขยายไปถึงกรุงมะนิลา แต่ลมแรง และคลื่นทะเลอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการที่ทีมผู้เชี่ยวชาญของฟิลิปปินส์จะเข้าไปตั้งทุ่นลอยน้ำกั้นคราบน้ำมันไม่ให้ขยายวงกว้าง
ที่ไต้หวัน ทีมกู้ภัยทำงานอยู่บริเวณนอกชายฝั่งของไต้หวัน เพื่อค้นหาลูกเรือชาวเมียนมา 9 คนของเรือสินค้าฟูซุน (Fu Shun)ซึ่งติดธงชาติแทนซาเนีย(จากทวีปแอฟริกา)ล่มกลางทะเลขณะจอดอยู่ท่าเรือ หลังพายุแคมีพัดถล่มไต้หวันเมื่อคืนนี้ สำนักพยากรณ์อากาศกลางของไต้หวันรายงานว่า ยังมีฝนตกหนักใน 4 เทศมณฑลและเมือง มีปริมาณฝนกว่า 1,000 มิลลิเมตร ระหว่างฝนตก 14 ชั่วโมงติดต่อกันจนถึงบ่ายวันนี้ เช่น เทศมณฑลเจียอี้ (มีปริมาณฝน 1,073 มิลลิเมตร) เทศมณฑลเกาสง(มีปริมาณฝน 1,352 มิลลิเมตร) เมืองผิงตง(มีปริมาณฝน 1,256 มิลลิเมตร)และเมืองอี๋หลาน (มีปริมาณฝน 1,250 มิลลิเมตร)
#พายุแคมี
#เรือล่ม
#ฟิลิปปินส์
#ไต้หวัน