'แฮร์ริส คิกออฟแคมเปญหาเสียง ผลสำรวจพบคะแนนนำ ด้าน 'ทรัมป์' มั่นใจชนะแน่นอน

           เปิดเวทีการหาเสียง หลังจากที่สามารถรวบรวมเสียงจากผู้สนับสนุนในพรรคเดโมแครตได้ครบตามข้อบังคับ คณะผู้เลือกตั้งทั้งหมด 3,949 คน เกณฑ์ขั้นต่ำคือมากกว่า 1,976 คน  นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ แคนดิเดตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรคเดโมแครต  กล่าวสุนทรพจน์ความยาว 17 นาที ที่โรงเรียนมัธยมเวสต์ อัลลิส เซ็นทรัล ย่านชานเมืองมิลวอกี ในรัฐวิสคอนซิน ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิที่มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจผลการเลือกตั้ง เรียกความมั่นใจ ชี้ให้เห็นจุดอ่อนของนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน โดยเทียบเคียงว่าเธอในฐานะอดีตอัยการกับนายทรัมป์ในฐานะผู้ต้องหาในคดีอาญา และขอให้ชาวอเมริกัน เลือกว่า ต้องการอาศัยอยู่ในประเทศแห่งเสรีภาพ ความเห็นอกเห็นใจ และหลักนิติธรรม หรือประเทศแห่งความโกลาหล ความกลัว และความเกลียดชัง

          นางแฮร์ริส ให้คำมั่นว่า หากได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะดูแลเรื่องความเป็นอยู่ของคนงานในสหภาพแรงงาน แก้ปัญหาความรุนแรงของการใช้อาวุธปืน และ เรื่องการปกป้องสิทธิในการทำแท้ง

         ผลสำรวจความคิดเห็นของรอยเตอร์/อิปซอส พบว่า นางแฮร์ริส นำ นายทรัมป์ 44% ต่อ 42% หลังจากที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถอนตัวจากการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์(21 ก.ค.67) และรับรองนางแฮร์ริส ลงแข่งขันแทน

          ขณะที่ ผลสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่นายไบเดนจะถอนตัว มีคะแนนตามหลังนายทรัมป์อยู่ 2%

          สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายไบเดนจะกล่าวสุนทรพจน์เย็นวันพุธ(24 ก.ค.67) ตามเวลาสหรัฐฯ หรือวันพฤหัสฯ(25 ก.ค.67) ตามเวลาในไทย เกี่ยวกับการตัดสินใจถอนตัว และล่าสุด นายไบเดน หายจากอาการป่วยโควิด-19 แล้ว ขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันจากรัฐเดลาแวร์ เพื่อเดินทางกลับไปที่กรุงวอชิงตัน ดีซี พร้อมทั้งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สบายดี และไม่ได้ตอบคำถามเพียงแต่หัวเราะ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงถอนตัวจากการลงแข่งขันชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ     

          ด้านนายทรัมป์ ประชุมทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอังคาร(23 ก.ค.67) แสดงความมั่นใจในความสามารถของเขาที่จะเอาชนะนางแฮร์ริส นายทรัมป์ ยังกล่าวอีกว่าจะพบกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกฯ อิสราเอล ที่ฟลอริดาในวันศุกร์(26 ก.ค.67) นี้ ในระหว่างการเดินทางเยือนสหรัฐฯ

#แฮร์ริส

#ทรัมป์

#เลือกตั้งสหรัฐฯ

Cr:The Straits Times,CNA