สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ปราศรัยต่อสาธารณชนในยูเครนด้วยน้ำเสียงแสดงท่าทียอมลดวาราศอกกับรัสเซียมากกว่าแต่ก่อน โดยพูดเป็นนัยว่า ยูเครนพร้อมจะเจรจาสันติภาพกับรัสเซียเป็นครั้งแรกนับแต่รัสเซียบุกยูเครนมากว่า 2 ปีแล้ว พร้อมเสนอแนะให้รัสเซียส่งคณะผู้แทนไปร่วมประชุมสันติภาพระหว่างประเทศต่อไปในเดือนพ.ย.นี้ โดยผู้นำยูเครน ยอมรับความเป็นจริงว่า ยูเครนอาจจะไม่ได้รับการช่วยเหลือด้านอาวุธจากสหรัฐฯและชาติตะวันตกในปริมาณที่มากพอที่จะรบชนะรัสเซีย
ด้านนายจอห์น เฮิร์บสต์ (John Herbst) อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเครน มองเรื่องการเปลี่ยนท่าทีของนายเซเลนสกีว่า ในปัจจุบัน ยูเครนเผชิญปัญหา 2 ด้านพร้อมๆกัน ข้อแรก กองทัพยูเครนเริ่มพบปัญหาในการป้องกันการสกัดการรุกคืบจากรัสเซีย แม้การรุกคืบของรัสเซียเริ่มสะดุดลงบ้างเมื่อเดือนพ.ค.หลังยูเครนใช้อาวุธจากสหรัฐฯโจมตีค่ายทหารรัสเซีย รัสเซียยังเดินหน้ารุกคืบเข้ามาอย่างช้าๆ สามารถยึดดินแดนเพิ่มเติมในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครน ส่วนข้อที่ 2 คือ ความไม่ชัดเจนทางการเมืองในสหรัฐฯและเยอรมนี ซึ่งเป็น 2 พันธมิตรหลักที่ให้การช่วยเหลือด้านอาวุธสำหรับยูเครน
โดยเฉพาะการเลือกตั้งในสหรัฐฯในการเลือกตั้ง 5 พ.ย.นี้ ซึ่งหลายฝ่าย ประเมินว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครประธานาธิบดีและนายดีเจ แวนซ์ ผู้สมัครรองประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯที่วิจารณ์เรื่องการสนับสนุนด้านอาวุธสำหรับยูเครน มีแนวโน้มชนะประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้สมัครประธานาธิบดีและนางกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ซึ่งนายเฮิร์บสต์ คาดว่า นายเซเลนสกี อาจจะต่อสายพูดคุยโทรศัพท์กับนายทรัมป์ในฐานะว่าที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ เพื่อส่งสัญญาณว่า เขาพร้อมจะนั่งโต๊ะเจรจากับรัสเซีย ตราบเท่าที่ข้อตกลงการเจรจาสันติภาพมีความเป็นธรรมสำหรับยูเครน
ด้านนายทรัมป์ เปิดเผยว่า เขาพูดคุยทางโทรศัพท์กับนายเซเลนสกีเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(19 ก.ค.) พร้อมเล่าถึงบรรยากาศการพูดคุยทางโทรศัพท์ว่า ชื่นมื่นมาก โดยนายทรัมป์กล่าวว่า เขาจะนำสันติภาพให้กลับมาสู่โลก อยากให้รัสเซียและยูเครนยุติสงครามเนื่องจากมีชาวบ้านในยูเครนเสียชีวิตมากแล้วนับแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 ส่วนนายเซเลนสกีพูดในประเด็นนี้ว่า เขาและนายทรัมป์พูดคุยเรื่องมาตรการต่างๆที่จะทำให้เกิดสันติภาพที่เป็นธรรมและยั่งยืนในยูเครน
ทั้งนี้ การประชุมสันติภาพครั้งก่อนในสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนที่แล้ว เจ้าภาพไม่ได้เชิญคณะผู้แทนจากรัสเซียเข้าร่วมประชุม เนื่องจากช่วงนั้น นายเซเลนสกีแสดงท่าทีแข็งกร้าว โดยกำหนดเงื่อนไขก่อนเปิดการเจรจากับรัสเซียว่าการเจรจาสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซียจะมีขึ้น ก็ต่อเมื่อรัสเซียถอนกำลังทหารออกจากยูเครนเรียบร้อยแล้วเท่านั้น
#สงครามยูเครน