ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนเดินทางเยือนกรุงลอนดอน และเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง เขากล่าวขอบคุณรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่ให้การสนับสนุนยูเครนอย่างต่อเนื่อง และขอให้นายเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เป็นผู้นำในการยกเลิกข้อจำกัดที่ยูเครนจะใช้อาวุธที่ได้รับมาจากพันธมิตรตะวันตกโจมตีภายในดินแดนรัสเซีย ซึ่งเขาระบุว่าเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันการโจมตีพื้นที่อยู่อาศัยในยูเครน และเป็นการบังคับให้รัสเซียเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพ
นายกรัฐมนตรี สตาร์เมอร์ สัญญาว่าจะสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มที่ ตราบเท่าที่จำเป็น
ส่วนนายจอห์น เฮลีย์ รัฐมนตรีกลาโหม กล่าวชี้แจงว่า สหราชอาณาจักรไม่ได้ขัดขวางการโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย แต่ต้องดำเนินการโดยยูเครนภายในขอบเขตและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และกล่าวว่ากำลังมีการหารือเกี่ยวกับ "ประเด็นที่ซับซ้อน" เรื่องนี้
ยูเครนได้รับอนุญาตให้โจมตีเฉพาะพื้นที่ที่ยึดครองภายในยูเครน จนถึงในเดือนมิถุนายนจึงได้รับอนุญาตให้ใช้อาวุธที่ได้รับมาจากพันธมิตรตะวันตกโจมตีเป้าหมายภายในรัสเซีย แต่ไม่ครอบคลุมถึงอาวุธพิสัยไกล ซึ่งหมายความว่ายูเครนถูกจำกัดให้โจมตีเป้าหมายใกล้ชายแดนเท่านั้น
ระหว่างการเยือนสหราชอาณาจักรในครั้งนี้ นายเซเลนสกีได้ลงนามในสนธิสัญญาสนับสนุนการส่งออกด้านการป้องกันประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการลงทุนของบริษัทด้านการป้องกันประเทศของยูเครนและสหราชอาณาจักร ซึ่งยังเกิดขึ้นหลังจากการประชุมของประชาคมการเมืองยุโรป เมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.ค.67) ที่พระราชวังเบลนไฮม์ ในอ็อกซ์ฟอร์ดเชียร์ และมีความตกลงที่จะจัดการกับ “กองเรือเงา” ของรัสเซีย ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมัน 600 ลำที่หลบเลี่ยงการคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซีย บรรทุกน้ำมันประมาณวันละ 1 ล้าน 7 แสนบาร์เรล เชื่อกันว่าบางลำยังขนส่งอาวุธให้กับรัสเซีย และบางลำยังทำหน้าที่เป็นสถานีดักฟังของรัสเซียด้วย
...
#ยูเครน
#อาวุธพิสัยไกล