*กต.แจงภาพลักษณ์ไทยดีขึ้นเร่งปราบค้ามนุษย์ ประสานประเทศที่ผู้ต้องหาม.112หลบหนี*

03 มิถุนายน 2558, 16:41น.


การดำเนินคดีกับพล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญา นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า การดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจังจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย ในกรณีของพล.ท.มนัส ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนต้องพิสูจน์กันในชั้นศาลต่อไป ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน



ส่วนความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮิงญา ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า ก่อนหน้าที่มีข่าวว่าพบชาวโรฮิงญามากถึง 7,000 คนบริเวณน่านน้ำ เมื่อไปตรวจสอบแล้วพบว่า มีประมาณ 1,000-2,000 คน ประเทศไทยให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมเหมือนเดิมตามที่ได้เคยช่วยเหลือ และจากการประชุมว่าด้วยการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งเป็นการประชุมเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การทำงานของไทยไม่แตกต่างจากที่ทำอยู่ คือ ให้การช่วยเหลือโดยส่งอาหาร ของใช้จำเป็น และการดูแลผู้ป่วย พร้อมกับส่งเรือออกลาดตระเวนประมาณ 7-8 ลำ พร้อมทั้งร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาในการส่งเครื่องบินลาดตระเวน ซึ่งสหรัฐฯไม่ได้เข้ามาตั้งฐานทัพในไทยหรือมีการขอใช้ฐานทัพ เป็นการขอบินผ่านน่านน้ำเท่านั้น ส่วนประเทศอินโดนีเซียกับมาเลเซีย จะจัดหาที่พักชั่วคราวให้กับชาวโรฮิงญา โดยทั้งสองประเทศพร้อมรับชาวโรฮิงญาประมาณ 7,000คน แต่ก็มีเงื่อนไขเช่นเดียวกันว่าจะต้องนำคนเหล่านี้ออกนอกประเทศภายใน 1 ปี หากไม่มีประเทศไหนรับก็ต้องให้กลับประเทศต้นทางหรือจะต้องหาพื้นที่ให้อยู่ และย้ำอีกครั้งว่าไทยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะชาวโรฮิงญาต้องการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเท่านั้น ไม่ได้ต้องการมาอยู่อย่างถาวร



ทั้งนี้กรณีที่หน่วยงานสนับสนุนธรรมาภิบาล ชื่อ World Justice Project ออกรายงานผลสำรวจเกี่ยวกับการปกครองด้วยกฎหมายของ 102 ประเทศทั่วโลก ระบุว่า ในปี 2558 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 56 ลดลงจากอันดับที่ 47 จากผลสำรวจ 99 ประเทศเมื่อปี 2557 นับเป็นการลดลง 9 อันดับ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยคงไม่ต้องชี้แจง เพราะทุกวันนี้มีการจัดอันดับกันหลายหน่วยงาน ที่สำคัญคือต้องดำเนินงานตามโรดแม็พ หากการปฏิรูปเป็นไปอย่างเรียบร้อย มีการเลือกตั้ง ตัวชี้วัดน่าจะดีขึ้น อย่างไรก็ดีต้องดูความเป็นอยู่ของประชาชนให้อยู่ดีมีสุขด้วย



ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีการถอนพาสปอร์ตของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ากระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาแล้ว ตามที่ตำรวจดำเนินการ และกระบวนการถอนพาสปอร์ตคือ ต้องแจ้งกับกงสุลและทูตต่างๆ ของไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ให้มีการให้ข้อมูลไปกับประเทศที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีผู้ต้องหามาตรา 112 ที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ อยู่ในกระบวนการประสานงานกับประเทศต่างๆ แต่ต้องดูว่ารายละเอียดของคดีเป็นอย่างไร



ผู้สื่อข่าว:สมจิตร์ พูลสุข



 

ข่าวทั้งหมด

X