สื่อในสหรัฐฯ รายงานว่า พ่อของนายแมทธิว ครุกส์ มือปืนที่พยายามลอบสังหารนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ โทรหาตำรวจก่อนเกิดเหตุเมื่อวันเสาร์ (13 ก.ค.67) เพราะเขาเป็นห่วงลูกชาย ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนหลายอย่างที่มีการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องหลังจากที่เกิดเหตุขึ้นแล้ว
ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า พ่อของนายครุกส์บอกกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเป็นห่วงลูกชาย ที่หายไปโดยไม่ได้แจ้งว่าไปไหน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการปราศรัยหาเสียงของนายทรัมป์ที่รัฐเพนซิลเวเนีย ทำให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะหน่วยข่าวกรองถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการทำงานมากขึ้น มีสมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐฯ บางคนถึงขั้นเรียกร้องให้หัวหน้าหน่วยงานลาออก
เอฟบีไอ รายงานว่า พ่อแม่ของนายครุกส์ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการสืบสวนด้วยดี ทำให้ทราบว่า เขามีการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า การประชุมใหญ่แห่งชาติของพรรคเดโมแครตในเดือนสิงหาคม รวมถึงการบันทึกภาพของนายทรัมป์, นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ, นายเมอร์ริก การ์แลนด์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม, นายคริส เรย์ ผู้อำนวยการเอฟบีไอ และสมาชิกราชวงศ์อังกฤษอีกด้วย
แต่เจ้าหน้าที่ยังคงพยายามค้นหาแรงจูงใจที่เป็นไปได้ที่ทำให้ลงมือก่อเหตุ และทำให้มือปืนวัย 20 ปี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองยิงเสียชีวิต แต่ก็หลังจากที่เขาเปิดฉากยิง การโจมตีของเขาทำให้ผู้ชมเสียชีวิต 1 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน
ในการตรวจสอบย้อนหลัง ยังพบว่ามีตำรวจท้องถิ่นพบเห็นนายครุกส์ แสดงพฤติกรรมแปลกๆ และมีเป้สะพายหลัง ในช่วงเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ แต่ไม่ได้เรียกตรวจค้น และยืนยันว่า ไม่พบว่าเขาถือวัตถุใดที่มีลักษณะคล้ายกับปืน AR ที่ใช้ในการก่อเหตุ ทำให้คาดว่าเขาอาจนำปืนมาซ่อนไว้ก่อน
นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเหตุพบผู้ต้องสงสัยบนหลังคาอาคาร ใกล้กับสถานที่จัดปราศรัย แต่เจ้าหน้าที่ที่จะติดตามขึ้นไปจับกุมตัวก็ต้องถอยกลับลงมาเมื่อผู้ต้องสงสัยหันปืนมาหา จากนั้นก็มีการยิงเกิดขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีถัดมา
ปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติที่เขาใช้ เป็นของพ่อนายครุกส์ ซึ่งซื้อมาอย่างถูกกฎหมายในปี 2556
และในการตรวจสอบทรัพย์สินของนายครุกส์ที่จุดเกิดเหตุพบว่าเขามีอุปกรณ์จุดชนวนระเบิดระยะไกลและรถของเขามีวัตถุระเบิดอยู่
....
#ลอบสังหารทรัมป์
#สหรัฐอเมริกา