จากคดีการเสียชีวิต 6 ศพของชาวเวียดนาม เหตุเกิดโรงแรมหรูกลางกรุง ก่อนตรวจสอบพบคนร้ายเป็น 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต ใช้ไซยาไนด์วางในน้ำชาและให้ทุกคนดื่ม ชนวนเหตุมาจากปมปัญหาหนี้สิน 10 ล้านบาทที่ชักชวนกันมาลงทุนสร้างโรงพยาบาลในญี่ปุ่น
ต่อมาตำรวจนำตัว ฟาน หง็อก หวู ไกด์ชาวเวียดนาม มาทำการสอบปากคำพบข้อมูลว่า น.ส.ถิ เหงียน ฟอง หลั่น ผู้เสียชีวิตชาวเวียดนาม สั่งให้ไปซื้อ ‘ยางูหมายเลข7’ ซึ่งสั่งผ่านไทเกอร์ในไปซื้ออีกที จนเป็นที่มาของการแกะรอยของชุดสืบสวนรายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ชุดทำคดีได้สืบสวนและทราบว่า ยางูหมายเลข 7 ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่เนื่องจากพฤติกรรมในการสั่งซื้อยาดังกล่าว มีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับน.ส.ถิ เหงียน ฟอง หลั่น จึงต้องสืบสวนให้สิ้นสงสัย แต่ยังไม่พบมีความเชื่อมโยงส่วนการสอบปากคำสามีชาวเวียดนามของน.ส.ถิ เหงียน ฟอง หลั่น ที่เป็นนักธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น โดยเดินทางมาพบตำรวจแล้ว มีรายงานว่า เจ้าตัวให้การว่าไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับภรรยาเลย เนื่องจากช่วงเกิดเหตุเดินทางไปทำธุรกิจอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ไม่รู้ความเคลื่อนไหวของภรรยา และไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนที่มีข้อมูลว่า ภรรยาเป็นนายหน้าไปชักชวนกลุ่มผู้เสียชีวิตมาลงทุน
ขณะนี้ชุดทำคดียังต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะลายนิ้วมือแฝงที่อยู่บนกาน้ำชา และถ้วยกาแฟที่พบสารไซยาไนด์ รวมถึงผลการตรวจสอบอื่นๆ จึงจะสามารถได้ความชัดเจนว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุวางยาในครั้งนี้
ด้านพล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยถึงวัตถุพยานที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า จากการตรวจสอบวัตถุพยานในห้องที่เกิดเหตุ ขณะนี้ยังมีแค่กาน้ำชา ซองชา และถ้วยกาแฟ ทั้ง 6 ถ้วย ที่พบสารไซยาไนด์ ส่วนวัตถุพยานที่ตรวจเก็บได้จากสัมภาระของผู้เสียชีวิต รวมไปถึงยารักษาโรคทั่วไป ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีสารไซยาไนด์
ทั้งนี้ จะประสานทางตำรวจนครบาลเพิ่มเติมก่อน เนื่องจากสัมภาระของผู้เสียชีวิตที่เหลือทั้งหมด ตำรวจนครบาลเก็บไว้เป็นหลักฐานและบางกระเป๋ามีการล็อกยังไม่ได้เปิด เนื่องจากต้องรอทางญาติของผู้เสียชีวิตและสถานทูตมาเปิดพร้อมกัน จึงต้องทำการประสานเพิ่มเติมว่ายังมีวัตถุพยานใดที่ต้องให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพื่มเติมอีกหรือไม่
ส่วนกรณีการตรวจสอบลายนิ้วมือและดีเอ็นเอจากวัตถุพยาน ขณะนี้ยังรอรายงานผลอยู่ เพราะเป็นการตรวจโดยละเอียด รวมถึงต้องรอผลดีเอ็นเอจากศพที่ทางนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นผู้ตรวจ ส่งมาเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของวัตถุพยานด้วยจึงจะยืนยันได้ว่า วัตถุพยานชิ้นไหนตรงกับดีเอ็นเอของใครบ้างโดยเฉพาะ วัตถุพยานที่พบสารไซยาไนด์ ทั้งกาชา แก้วกาแฟ กระป๋องชา และซองชา
#คดีฆ่า6ศพ
#เวียดนามยาพิษ