ตร.คุมตัวไกด์-สามี 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต สอบสวน หาเบาะแสซื้อ ไซยาไนด์

17 กรกฎาคม 2567, 21:26น.


          กรณีชาวเวียดนามเสียชีวิตจาก สารไซยาไนด์ ภายในโรงแรมย่านราชประสงค์โดยทั้ง 6 คน เกี่ยวข้องกันในฐานะนายหน้าชักชวนลงทุนสร้างโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่น และผู้ลงทุน



          นางสาว ธิ เหงียน เฟือง อายุ 46 ปี ชาวเวียดนาม และ นายฮง ฟาม ธาน อายุ 49 ปี ชาวเวียดนาม ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน มีสถานะเป็น “เจ้าหนี้” หลังจากให้กู้ยืมเงินลงทุนเป็นจำนวนเงินประมาณ 10 ล้านบาท กับ 2 สามีภรรยา ได้แก่ นางสาว ธิ เหงียน เฟือง ลาน อายุ 47 ปี หญิงชาวเวียดนาม กับสามี MR.TIEN THANG PHAM ซึ่งติดธุระอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์



          ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุ ลูกสาวของเจ้าหนี้ทั้ง 2 คนให้ข้อมูลว่าพ่อแม่เดินทางมาไทยเพื่อเคลียร์หนี้สินที่เกิดขึ้น สอดคล้องกับที่พนักงานนำอาหารของโรงแรม ให้การว่าในวันเกิดเหตุ (16ก.ค.) นางสาวเชอรีน ชอง อายุ 56 ปี ชาวเวียดนามสัญชาติอเมริกัน มีสถานะเป็น “ผู้ค้ำประกัน” ซึ่งเป็นเจ้าของห้อง 502 อยู่ในห้องคนเดียว ขณะที่พนักงานนำอาหารและเครื่องดื่มมาส่ง พนักงานยืนยันนำอาหารไปวาง และพนักงานขอชงชาให้ แต่หญิงดังกล่าวบอกว่าจะจัดการเอง เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดชัดเจนพบว่าหลังจากนั้น ผู้เสียชีวิตอีก 5 คนได้เดินเข้าไปในห้องแล้วไม่พบใครเดินออกมาอีกเลย คาดว่า นางสาวเชอรีน ชอง จะเป็นผู้ลงมือวางยาทุกคนจนเสียชีวิต และดับตัวเองเป็นคนสุดท้ายสรุปผู้เสียชีวิตเป็นหมายเลข 1-6 ดังนี้



1.นางสาว ธิ เหงียน เฟือง เพศหญิง อายุ 46 ปี



2.นางสาว ธิ เหงียน เฟือง ลาน เพศหญิง อายุ 47 ปี



3.นายดิน ซาน ฟู เพศชาย อายุ 37 ปี



4.นายฮุง ดัง วาน เพศชาย อายุ 55 ปี



5. นางสาวเชอรีน ชอง เพศหญิง อายุ 56 ปี



6. นายฮง ฟาม ธาน เพศชาย อายุ 49 ปี



          โดย หมายเลข 1 และ หมายเลข 6 เป็นคู่สามีภรรยาเดินทางเข้าไทยด้วยกัน เปิดห้องพักนอนด้วยกันก่อนจะไปรวมกับคนอื่นในช่วงบ่ายวันที่ 15 ที่ห้อง 502



          หมายเลข 2 และ หมายเลข 5 เป็นนายหน้า ชักชวนคู่สามีภรรยาหมายเลข 1 และ 6 ลงทุนสร้างโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่น ลงทุนไปแล้วกว่า 10 ล้านบาท แต่ยังไม่เห็นผล



          บุคคลที่ 7 เป็นน้องสาวของนายหน้าหมายเลข 2 เดินทางเข้าไทยพร้อมกันแต่กลับเวียดนามไปเมื่อวันที่ 10 ก.ค. ตำรวจอยู่ระหว่างติดต่อขอสอบปากคำ เชื่อไม่เกี่ยวกับเหตุนี้



          ส่วนหมายเลข 3 และ 4 ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด คาดว่าเป็นผู้ถูกชักชวนมาพูดคุยเกี่ยวกับการลงทุน แต่ห้องพักของหมายเลข 4 มีนายหน้าหมายเลข 5 ทำการจองไว้ให้ แล้วจ่ายมัดจำและชำระค่าห้องพักด้วยบัตรเครดิตของหมายเลข 4 เหตุผลที่สงสัยหมายเลข 5 เพราะห้องที่เกิดเหตุ เป็นห้องพักในชื่อหมายเลข 5 มีช่วงที่หมายเลข 5 อยู่ในห้องคนเดียวประมาณ 6 นาที หลังชาและอาหารเข้ามาเสริฟ และมีอาการพิรุธ เดินไปหยิบของบางอย่างช่วงพนักงานเสริฟเข้าไปในห้องด้วย



          ด้านการสอบสวน มีรายงานว่า ในช่วงเย็นวันนี้ พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.3 บก.สส.บช.น. ได้ควบคุมตัว นายฟาน หง็อก หวู (mr.PHAN NGOC VU) อายุ 35 ปี สัญชาติเวียดนาม ไกด์นำเที่ยว เพื่อมาสอบปากคำในฐานะพยาน บนห้องประชุมชั้น 2



          มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 - 5 ก.ค. Ms.THI NGUYEN PHUONG LAN สัญชาติเวียดนาม (หมายเลข2) เป็น 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต ได้ใช้ไกด์ซื้อยาไปให้ ในราคายา 11,000 บาท โดยเอายาไปส่งให้ที่ รร.เอเทรียม ซึ่งบอกว่าเป็นยางู  



          ต่อมาวันที่ 9 ก.ค.สามี ของ Ms.THI NGUYEN สั่งให้แปลงเงินเป็นเงินไทย 90,000 บาท แล้วถือเอาไปให้ชายสัญชาติอเมริกัน 1 ในผู้เสียชีวิตที่โรงแรม แกรนด์ เซ็นเตอร์พ้อยต์ ราชดำริ โดยระหว่างมอบเงินให้พบหญิงปริศนาหมายเลข 7 เอาเงินไป หลังนั้นหญิงหมายเลข 7 ก็บินกลับดานัง ประเทศเวียดนาม ไป



          สำหรับในวันที่เกิดเกิดเหตุ สามีของ Ms.THI NGUYEN ใช้ให้ไกด์ตามหาภรรยาเพราะติดต่อไม่ได้ ไกด์ก็ตะลอน ๆ หา ทั่ว กทม. ขณะนี้ ว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำสามีของ Ms.THI NGUYEN อยู่ที่ห้องประชุม สน.ลุมพินี



 



#วางยาชาวเวียดนาม



#ฆ่า

ข่าวทั้งหมด

X