หนังสือพิมพ์โพรคิวเรทอเรียล เดลี(Procuratorial Daily) ของทางการจีน รายงานว่า พนักงานอัยการของจีนสั่งให้มีการสอบสวน 16 บริษัทในเมืองหนานทง มณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออกของประเทศ หลังผู้สมัครงานหญิง 168 คนร้องเรียนว่า เจ้าหน้าที่แผนกบุคคลของบริษัทดังกล่าวขอให้พวกตนเข้ารับการตรวจครรภ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตรวจสุขภาพก่อนรับสมัครเข้าทำงาน เข้าข่ายเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
บีบีซีรายงานว่า คดีนี้แสดงให้เห็นความย้อนแย้งในการทำงานระหว่างรัฐบาลกับเอกชน ขณะที่ภาครัฐ พยายามรณรงค์ให้คนหนุ่มสาวและกลุ่มวัยทำงานมีลูกเพิ่มขึ้น เพื่อแก้ปัญหาอัตราทารกเกิดใหม่ต่ำเป็นประวัติการณ์ แต่เอกชนจีนกลับแสดงท่าทีอิดออด ไม่เต็มใจจ้างคนงานหญิงที่มีครรภ์เข้าทำงาน นอกจากนี้ ผู้สมัครงานหญิงบางคนถูกขอให้วางแผนครอบครัวระหว่างสัมภาษณ์เข้าทำงาน หรืออาจจะไม่ได้รับการพิจารณาการเข้าทำงาน ถ้าพวกเขาวางแผนจะมีบุตร
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานท้องถิ่นในเมืองหนานทงได้รับการร้องเรียนจากองค์กรทนายแห่งหนึ่งที่เปิดปรึกษาคำแนะนำทางกฎหมายทางสื่อออนไลน์ ทราบว่า นายจ้างบางคนในเมืองหนานทงบังคับให้ผู้สมัครงานหญิงเข้ารับการตรวจครรภ์ หลังทราบข้อร้องเรียนดังกล่าว พนักงานอัยการเริ่มทำการสอบสวน และไปสอบสวนผู้บริหารโรงพยาบาลรัฐ 2 แห่งในท้องถิ่นและศูนย์ตรวจสุขภาพแห่งหนึ่ง
กฎหมายแรงงานของจีน สั่งห้ามบริษัทบังคับแรงงานหญิงให้เข้ารับการตรวจครรภ์ก่อน ที่จะรับเข้าทำงาน ถือเป็นการกีดกันโอกาสในการก้าวหน้าในอาชีพ หากฝ่าฝืนมีโทษถูกปรับ 50,000 หยวน(หรือ 246,896 บาท)ฐานกีดกันทางเพศ
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติจีนบ่งชี้ว่า ประชากรจีนลดมา 2 ปีติดต่อกัน มีเด็กเกิดใหม่ 9.02 ล้านคนในปี 2566 เทียบกับ 9.56 ล้านคนในปี 2565 และเป็นสถิติต่ำสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศจีนในปี 2492 โดยในภาพรวม จำนวนประชากรของจีนในปี 2566 ลดมาอยู่ที่ 1,409 ล้านคน ลด 2.08 ล้านคนจากปี 2565
#จีนสอบบริษัทเอกชน
#ตรวจตรวจครรภ์ผู้สมัครงานหญิง