เจรจาสัปดาห์นี้! เหลือ 3 บริษัทประมูลข้าวเก่า 10 ปี คาดจะได้ราคาดีกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม

15 กรกฎาคม 2567, 13:52น.


         นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึง ความคืบหน้าการประมูลข้าวสารสต็อกรัฐค้างเก่า 10 ปี 15,000 ตัน ซึ่งพบว่า มี 3 บริษัทถูกตัดสิทธิ์ประมูล ว่า ในสัปดาห์นี้จะเชิญบริษัทที่ประมูลถูกต้องมาเจรจา เพื่อต่อรองราคา และคิดว่า น่าจะจบภายในอาทิตย์นี้ และมั่นใจว่า ราคาข้าวที่ได้จากการประมูลจะดีกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัมแน่นอน



          ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์ แจ้งผลรายงานตรวจสอบคุณสมบัติผู้ซื้อข้าวสารสต็อกรัฐค้างเก่า 10 ปี 15,000 ตันจำนวน 6 ราย พบว่า 3 ราย คือ บริษัท วี เอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัดบริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัด และบริษัท เอส. เอส. เอ็ม. อาร์. การเกษตร จำกัด มีพฤติกรรมเชื่อมโยงคดีค้างเก่าที่อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลปกครองและต้องถูกตัดสิทธิประมูลแน่นอน



           ทำให้ผู้เข้าร่วมประมูลที่เหลืออีก 3 ราย คือ บริษัท สหธัญ จำกัด บริษัท ทรัพย์แสงทองไรซ์ จำกัด และบริษัท บี เอ็น เค การเกษตร 2024 จำกัด แทน โดย 1 ใน 3 รายที่เสนอราคาสูงสุด คือ บริษัท สหธัญ จำกัด เสนอราคาซื้อข้าวคลังพูนผลเทรดดิ้งเพียงคลังเดียว 62,734,711.23 บาท เฉลี่ย 18.690 บาท/กก.



          ส่วนบริษัท ทรัพย์แสงทองไรซ์ จำกัด เสนอราคาคลังกิตติชัย เพียงคลังเดียว 182,046,000 บาท เฉลี่ย 15.617 บาท/กก. และบริษัทบี เอ็น เค การเกษตร 2024 จำกัด เสนอราคาซื้อข้าว ทั้งสองคลัง โดยคลังพูนผลเทรดดิ้ง 53,705,477.77 บาท เฉลี่ย 16.00 บาทต่อกก. และคลังกิตติชัย 186,506,473.60 บาทเฉลี่ยราคา 16.00 บาทต่อกก.



          แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่ อคส.ตรวจสอบเชิงลึกทุกด้านของบริษัทผู้เข้าร่วมประมูลทั้ง 6 ราย พบ พฤติกรรมเชื่อมโยงคดีค้างเก่าที่อยู่ระหว่างพิจารณาของศาลปกครอง โดยเฉพาะบริษัท วี เอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด ที่เสนอราคายื่นซองประมูลมากสุดโดยให้ที่ 19.07 บาทต่อกก. หรือกว่า 286 ล้านบาท และอีก 2 บริษัทดังกล่าว ที่มีส่วนเกี่ยวข้องคดีค้างเก่ากับนิติบุคคล ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ทำความเสียหายให้แก่ อคส. และถูก อคส. ฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายตามสัญญารับฝากเก็บรักษา มันเส้น ข้าวสาร และสัญญาจ้างตรวจสอบ และรับผิดชอบคุณภาพข้าว ซึ่งเป็นคดีค้างเก่ายังอยู่ในการพิจารณาของศาลปกครอง



          สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดร่วงลงมา เพราะข้าวใหม่กำลังออกสู่ตลาด อย่างข้าวขาว 5 % ราคาเหลือ 19 บาทต่อกก. ข้าวหอมมะลิใหม่ราคา 30-31 บาทต่อกก. ดังนั้นข้าวหอมมะลิที่นำออกมาประมูล เป็นข้าวค้าง 10ปี จะมาขายเป็นหอมมะลิไม่ได้เพราะคุณสมบัติเปลี่ยนไปหมด ถ้าจะขายต้องขายเป็นข้าวขาว หรือข้าวเก่า เพราะคุณสมบัติของข้าวหอมมะลิ เสื่อมสภาพหมดแล้ว ส่วนการนำไปจำหน่ายในตลาดแอฟริกา ไม่ได้แน่นอน เนื่องจาก คดีข้าว 10 ปี ดังมาก หากบริษัทรายใดนำไปขาย ก็จะถูกกาหัวในวงการค้าข้าวได้



          อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลพบว่า สาเหตุที่วีเอทและธนสรรไรซ์ไม่ผ่านคุณสมบัติ เนื่องจากในอดีตทั้ง บริษัทสวัสดิ์ไพบูลย์และ ธนสรรไรซ์ ต่างมีปัญหาเรื่องรับจำนำข้าว ที่เติบโตมาจากโครงการรับจำนำข้าว



 



#ประมูลข้าวเก่า10 ปี 



#ตัดสิทธิ์



#จำนำข้าว



 

ข่าวทั้งหมด

X