หลังการเลือกตั้งทั่วไปฝรั่งเศสในรอบที่ 2 ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส ได้แสดงความเห็นเป็นครั้งแรกต่อเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองของฝรั่งเศสเมื่อวานนี้(10 ก.ค.) ขอให้พรรคการเมืองกระแสหลักของฝรั่งเศสจับมือกัน เพื่อครองเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และจัดตั้งรัฐบาลผสมเข้ามาบริหารประเทศ โดยไม่ควรจับมือกับพรรคซ้ายจัด และพรรคขวาจัด
ทั้งนี้จากจดหมายเปิดผนึกที่ส่งถึงประชาชนชาวฝรั่งเศส ซึ่งพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของฝรั่งเศสเมื่อวานนี้(10 ก.ค.) นายมาครงขอให้พรรคการเมืองต่างๆรักษาอุดมการณ์อนุรักษ์นิยมของฝรั่งเศส ให้พรรคการเมืองกระแสหลักจับมือจัดตั้งรัฐบาลผสม และมีเสียงสส.มากพอที่จะครองเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้สามารถผ่านร่างกฎหมายผ่านสภาได้อย่างราบรื่น
ความเห็นของนายมาครง สะท้อนว่า ไม่อยากทำงานร่วมกับพรรคแนวคิดสุดโต่งทั้งซ้ายและขวาจัด แม้ว่าพรรค NFP ซ้ายจัดชนะเลือกตั้งเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว แต่ไม่เพียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ขอให้พรรคการเมืองทุกพรรค คำนึงถึงหลักนิติรัฐ ระบบรัฐสภา แนวคิดการรวมกลุ่มกับกลุ่มสหภาพยุโรปและการปกป้องเอกราชของฝรั่งเศส เพื่อให้สามารถติดต่อพูดคุยด้วยความจริงใจและสุจริต เพื่อให้ครองเสียงข้างมากในสภา เพื่อสามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมเข้ามาบริหารประเทศ
ผลการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว (7 ก.ค.) พรรคแนวร่วมซ้าย นิว พ็อพพิวลาร์ ฟรอนต์ (NFP)ที่มี นายฌอง-ลุค เมลองชอง เป็นแกนนำ จัดชนะเลือกตั้งได้สส.182 ที่นั่งจากทั้งหมด 577 ที่นั่ง พรรคพันธมิตร เอนเซมเบิล'(Ensemble) ของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสได้ 163 ที่นั่ง และพรรคเนชั่นแนลแรลลี (National Rally) พรรคขวาจัดของนางมารีน เลอเปน ได้ 143 ที่นั่ง
ก่อนหน้านี้ นายมาครงประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.หลังพรรคเรเนซองส์ พรรคสายกลางของนายมาครงแพ้การเลือกตั้งให้กับพรรคเนชั่นแนลแรลลี (National Rally) พรรคขวาจัดของนางมารีน เลอเปน ในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภายุโรประหว่าง 6-9 มิ.ย. ส่งผลฝรั่งเศสประสบปัญหาชะงักงันทางการเมือง
#การเมืองฝรั่งเศส