นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย อยู่ระหว่างการเยือนรัสเซีย 2 วัน เริ่มจากเมื่อวานนี้ (8 ก.ค.67) เป็นการเยือนรัสเซียเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งสมัยที่ 3 เมื่อเดือนที่แล้ว และเป็นการเยือนกรุงมอสโกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนในปี 2564 ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนโพสต์ข้อความทาง X แสดงความรู้สึกผิดหวังในตัวนายโมดีในฐานะผู้นำของประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่มาเยือนรัสเซียในวันเดียวกับวันที่รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีโรงพยาบาลอ็อกมัตดิต (Okhmatdyt) โรงพยาบาลเด็กขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงเคียฟ และยิงขีปนาวุธโจมตีย่านชุมชนในหลายเมืองทั่วประเทศ เช่น เมืองดนีปรอ,ครีวิริก,สลอฟยานสก์และเมืองกรามาตอสก์ มีผู้เสียชีวิต 37 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 170 คน
นายเซเลนสกี กล่าวว่า นายโมดี สวมกอดประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียอย่างชื่นมื่น ทั้งๆที่นายปูตินเป็นผู้นำที่มีหมายจับจากศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) จากการก่ออาชญากรรมสงครามในยูเครน นายเซเลนสกี เชื่อว่า การเยือนรัสเซียของนายโมดีจะไม่เอื้อต่อความพยายามในการส่งเสริมสันติภาพให้เกิดขึ้นในยูเครนและทั่วโลก
ด้านนายโมดี โพสต์ข้อความทาง X ขอบคุณนายปูตินที่ให้การต้อนรับที่บ้านพักโนโว-โอการ์โยโวของนายปูตินในแถบชานกรุงมอสโกเมื่อวานนี้(8 ก.ย.) โดยนายปูตินและนายโมดี จะประชุมกันในทำเนียบเครมลินในกรุงมอสโกในวันนี้(9 ก.ค.) ขณะที่ นักวิเคราะห์มองว่า การเยือนรัสเซียของนายโมดีในครั้งนี้ บ่งชี้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับอินเดียยังคงแน่นแฟ้น ถึงแม้ว่ารัสเซียพึ่งพาความช่วยเหลือจากจีนมากกว่าในเรื่องเศรษฐกิจและการค้า อีกทั้งกระทบความพยายามของผู้นำจากชาติตะวันตกส่วนใหญ่ที่ต้องการให้ผู้นำทั่วโลกผู้นำรัสเซียหลังรุกรานยูเครน
สำหรับอินเดียมีความสัมพันธ์อย่างยาวนานกับรัสเซียและยังคงพึ่งพารัสเซียในเรื่องต่างๆ เช่น การจัดซื้ออาวุธและการจัดซื้อน้ำมันดิบราคาถูกจากรัสเซีย ทำให้รัสเซียมีรายได้จากการขายอาวุธและน้ำมันดิบมาใช้จ่ายสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน แม้ว่ารัสเซียถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจมานับตั้งแต่บุกรัสเซียในปี 2564
#ยูเครนวิจารณ์ผู้นำอินเดีย
#สงครามยูเครน