ตร.ขยายผล ปล้นเงิน 3.3 ล้านบาท สั่งสอบเจ้าของเงิน พฤติกรรม เลี่ยงกฎ ปปง.

09 กรกฎาคม 2567, 19:06น.


           การสอบสวนคดีปล้นเงิน 3.3 ล้านบาท ก่อเหตุในลานจอดรถหน้าห้างดังย่านพัฒนาการ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายแจ็ค หรือนายจักรพงษ์ อายุ 44 ปี ซึ่งให้การที่ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยนายแจ็ค ได้ให้การว่า เป็นคนวางแผนในการก่อเหตุครั้งนี้ร่วมกับนายบอล ปากแหว่ง และผู้ต้องหาอีกคน ซึ่งชายไม่ทราบชื่อ ตามข้อมูลที่นายแจ็ค ยอมเปิดปาก ระบุว่า ผู้ต้องหาอีกคน มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งข้อมูลจากการสืบสวนล่าสุดตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหาคนที่ 3 ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย



          ส่วนนายบอลปากแหว่ง  เบื้องต้นต้องให้ สปป.ลาว ดำเนินคดีกับนายบอลให้เรียบร้อยก่อน จึงจะส่งตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยได้



          สำหรับประเด็นธุรกิจของบริษัทฯ ที่ผู้เสียหายไปทำธุรกรรมเบิกถอนเงินในวันเกิดเหตุ พล.ต.ต.นพศิลป์ ระบุว่า ในชั้นสอบสวน นายแจ็คได้ให้การกับตำรวจว่า ผู้เสียหายเป็นบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงิน แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะจากการสืบสวนเส้นทางการเงินในเบื้องต้น พบว่า บริษัทฯ ได้จ้างให้คนไปเงินไปทำธุรกรรมแต่ละครั้งมากกว่า 1 ธนาคาร และมีการเบิกเงินครั้งละไม่เกิน 2 ล้านบาท เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบที่ต้องรายงานธุรกรรมต้องสงสัย จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเชิญกรรมการบริษัท หรือตัวแทนของบริษัทผู้เสียหายมาชี้แจง



          นอกจากนั้น ยังพบว่า เจ้าของบัญชีในการทำธุรกรรมเป็นคนไทย 3 คน ที่อยู่ในจังหวัดเชียงราย พังงา และสมุทรปราการ โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค.67 พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกให้ทั้ง 3 คน มาพบเจ้าพนักงานแล้ว แต่ทั้ง 3 คน ไม่มาตามหมายเรียก ซึ่งขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการออกหมายเรียกครั้งที่ 2



          มีรายงานว่า พล.ต.ต.นพศิลป์ สั่งการให้ชุดคลี่คลายคดีตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดของบัญชีที่ถูกถอนออกไป ก่อนจะถูกนายแจ๊คและนายบอล ก่อเหตุชิงทรัพย์ได้เงินไป 3.3 ล้านบาท ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมายหรือไม่ หลังพบเงินหมุนเวียนเข้ามาในบัญชีทุกวัน



 



#ปล้นเงิน



#ฟอกเงิน



แฟ้มภาพ

ข่าวทั้งหมด

X